“องค์ทะไล ลามะ”ชวนพุทธทุกนิกายส่งกำลังใจสู่อู่ฮั่นจีน สวดมนต์ป้องกันไวรัสโคโรนา พร้อมแนะมั่นฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2563 ที่ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย พระปราโมทย์ วาทโกวิโท,ดร. อาจารย์หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้นำนิสิตปริญญาโทและปริญญาเอก หลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษาและสาขาพุทธจิตวิทยา มจร เข้าเฝ้าองค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวทิเบต พระต้นแบบนักสันติภาพระดับโลก เพื่อเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ในโอกาสนี้พระวิเทศวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำอเมริกา รัฐโอไฮโอ้, รองเลขาธิการสมัชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้เป็นผู้นำเข้าเฝ้าพร้อมเรียนรู้กับนักสันติภาพระดับโลก ในฐานะนิสิตระดับปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร
“ในโอกาสนี้องค์ทะไล ลามะ ได้กล่าวถึงโรคระบาดจากไวรัสโคโรนา ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนอยู่ขณะนี้ โดยขอให้ชาวพุทธควรจะร่วมกันสวดมนต์ไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป” พระปราโมทย์ กล่าวและว่า
องค์ทะไล ลามะได้ให้คำเสนอแนะว่า เรามีวิธีการสวดมนต์คล้ายๆ กัน แต่บทสวดมนต์อาจจะแตกต่างกันไม่เป็นไร สวดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเป็นโรคร้าย มีผู้คนส่วนมากส่วนมากในโลกขณะนี้กังวลและหวาดกลัวโรคระบาดนี้มาก ขอท่านทั้งหลายร่วมสวดมนต์เพื่อป้องกันโรคร้าย
จากนั้นองค์ทะไล ลามะได้กล่าวกับผู้เข้าเฝ้า 2 ประเทศ คือประเทศไทยและประเทศเวียดนามความว่า พระพุทธศาสนาสอนให้มองเห็นศักยภาพของมนุษย์แต่มิติศาสนาอื่นจะเชื่อในพระเจ้า พระพุทธศาสนาจะต้องพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง ต้องปฏิบัติเท่านั้น แต่เราเคารพทุกศาสนาเพราะแต่ละศาสนามีดีอยู่แล้ว เราจึงต้องให้เกียรติทุกศาสนาจะนำไปสู่สันติสุข ปัจจุบันเราอายุ 84 ปี ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลา สิ่งที่เน้นมากคือวิปัสสนากรรมฐาน สำคัญในทุกชีวิตทุกศาสนา ตะวันออกมีฐานของวิปัสสนากรรมฐาน ตะวันตกเพิ่งมาสนใจในด้านของสติ ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น มีการพัฒนาต่อยอดคำสอนให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละประเทศ
องค์ทะไล ลามะกล่าวย้ำว่า ให้ทุกท่านฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจะสามารถลดความโลภโกรธหลงสามารถจัดการความทุกข์ได้เป็นอย่างดี เน้นย้ำให้เคารพผู้อื่นแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกัน ให้เกียรติทุกศาสนา รวมถึงเคารพในศาสนาเดียวกัน เราจึงต้องไม่โจมตีศาสนาและนิกายอื่นๆ ด้วยการมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทุกรูปแบบด้วยการฝึกฝนตนเองเป็นสันติภายใน ฝึกตนเองก่อนแล้วไปช่วยเหลือคนอื่น จึงต้องฝึกการลดอัตตาตัวตนของเราในเบื้องต้น
“ดังนั้น การเข้าเฝ้าในครั้งนี้ พระองค์ทรงให้เกียรติคนไทยเป็นอย่างยิ่ง พอพระองค์มาถึงห้องประชุมเบื้องต้นคือถามหาคนไทย เสด็จมาทักทายพระสงฆ์ทุกรูป นับว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ในการมีโอกาสเข้าพบองค์ทะไล ลามะในครั้งนี้” พระปราโมทย์ระบุ
Leave a Reply