ธรรมกายจัดธรรมยาตราตามเส้นทางพระผู้ปราบมารปีที่ 8 จำนวน 1,136 รูป

คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ร่วมภาคีเครือข่ายฯ แถลงข่าวดำเนินงานโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 8 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5” เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2563

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์สื่อมวลชน วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีการจัดงานแถลงข่าว “โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 8 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2563” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2 – 31 มกราคม พ.ศ. 2563 โดยมี พระมหานพพร ปุญฺญชโย (ป.ธ. 9) รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย, นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และผู้ประสานงานโครงการฯ, นางสาวสุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ประธานชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ปทุมธานี ในอุปถัมภ์พระธรรมรัตนาภรณ์, อาจารย์ลือพงศ์ ลีลพนัง อาจารย์พิเศษวิชามหาปูชนียาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอร์เนีย (DOU), นายสันติ รุ่งสุขพลากรณ์ ประธานชมรมพุทธศาสตร์สากล ในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์, นายพีระพงษ์ พันธ์ทอง โฆษกองค์กรอาสาสมัครเพื่อสันติภาพ (V-PEACE) ร่วมกันแถลงข่าว โดยมีสื่อมวลชน ผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายดำเนินงานฯ และผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว

นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และผู้ประสานงานโครงการธรรมยาตราฯ ปีที่ 8 กล่าวว่า “สืบเนื่องจากเทศกาลเริ่มต้น พ.ศ.2563 กำลังจะมาถึง คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย จึงได้ประสานความร่วมกับ องค์การพุทธโลก (พล),องค์กรทางพระพุทธศาสนา ภาคีเครือข่ายทางการคณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จำนวนกว่า 30 องค์กร โดยการสนับสนุนของเครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกและผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันดำเนินงานโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 8 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่จัดขึ้นเป็นประเพณีปีที่ 8 ในระหว่างวันที่ 2 ถึง 31 มกราคม พ.ศ.2563 รวม 30 วัน ในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี, นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, นครปฐม, และกรุงเทพมหานคร

ตามเส้นทางพระผู้ปราบมาร ซึ่งเป็นเส้นทางที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ที่เกี่ยวเนื่องกับชีวประวัติของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์ได้พร้อมใจกันสถาปนาขึ้น รวมทั้งสิ้น 7 แห่ง ประกอบด้วย ลำดับที่ 1 สถานที่เกิดด้วยรูปกายเนื้อ ตั้งอยู่บนแผ่นดินรูปดอกบัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี, ลำดับที่ 2 สถานที่ตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต ตั้งอยู่ริมคลองบางนางแท่น อ.สามพราน จ.นครปฐม, ลำดับที่ 3 สถานที่เกิดใหม่ในเพศสมณะ ตั้งอยู่วัดสองพี่น้อง (พระอารามหลวง) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี, ลำดับที่ 4 สถานที่เกิดใหม่ด้วยกายธรรม ตั้งอยู่วัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นครปฐม, ลำดับที่ 5 สถานที่เผยแผ่วิชชาธรรมกายครั้งแรก ตั้งอยู่บนแผ่นดินตรงข้ามวัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม,

ลำดับที่ 6 สถานที่ค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ตั้งอยู่วัดปากน้ำ (พระอารามหลวง) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร และลำดับที่ 7 สถานที่ขยายวิชชาธรรมกาย ตั้งอยู่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ด้วยรูปแบบกิจกรรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 อาทิ การถวายมหาสังฆทานแด่คณะสงฆ์ การสวดมนต์และปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดศาสนสถานให้สะอาด ร่มรื่น เป็นสถานที่สัปปายะ การมอบทุนการศึกษา เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานวีถีวัฒนธรรมชาวพุทธให้เข้มแข็ง สืบทอดอายุของพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเป็นการหนุนเสริมการขับเคลื่อนดำเนินงานภารกิจในด้านการเผยแผ่, ด้านการสาธารณสงเคราะห์ และด้านสาธารณูปการ ตามนโยบายของคณะสงฆ์ เพื่อมุ่งฟื้นฟูส่งเสริมวิถีวัฒนธรรมชาวพุทธให้กลับหวนคืนสู่บวร คือ บ้าน วัด โรงเรียน อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานโครงการธรรมยาตราฯ ปีที่ 8 สอดคล้องเหมาะสมกับระยะเวลาและรูปแบบกิจกรรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ที่กำหนดจัดขึ้นในพื้นที่ 6 จังหวัด จึงกำหนดรูปแบบการสัญจรระหว่างอนุสรณ์สถานและวัดต่างๆ ในเส้นทางพระผู้ปราบมารของพระธรรมยาตราจำนวน 1,136 รูป ด้วยการใช้รถบัสและเรือเป็นหลัก อีกทั้ง กิจกรรมนี้เป็นงานบุญสืบสานพุทธประเพณี ที่ภาคีเครือข่ายดำเนินงานฯ มีกำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น”

พระมหานพพร ปุญฺญชโย (ป.ธ. 9) รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการธรรมยาตราฯ ที่สำคัญประการหนึ่ง คือ เพื่อให้พระภิกษุบวชใหม่ได้ฝึกตนตามพุทธวิธี เป็นศาสนทายาทที่ดีแก่พระพุทธศาสนา จึงเป็นที่มาของคณะพระธรรมยาตราฯ ในโครงการฯ ทั้งนี้ โครงการบรรพชาอุปสมบทของวัดพระธรรมกาย หลังจากที่ผู้เข้าอบรมได้บรรพชาอุปสมบทแล้ว ในช่วงระหว่างการอบรมจะเป็นการหล่อหลอมอยู่ร่วมกันในหมู่พระสงฆ์ ให้ความรู้ปลูกฝังพระธรรมวินัย ข้อปฏิบัติเสขิยวัตรต่างๆ วิธีการปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา กล่าวโดยย่อก็คือ การอยู่ในหมู่คณะเฉพาะพระเป็นการปลูกฝังสมณสัญญา สร้างความเป็นพระให้กับผู้เข้าอบรมฯ ส่วนการออกไปปฏิบัติธรรมจาริกไปนอกสถานที่ จะทำให้พระเห็นคุณค่าของความเป็นพระ สร้างความตระหนักรู้ว่าพระภิกษุมีหน้าที่ ที่สำคัญซึ่งจะต้องปฏิบัติต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชาติอย่างไรบ้าง ด้วยเหตุนี้และสถานการณ์ปัจจุบันที่มียอดพระภิกษุที่เข้าอบรมทั้งรุ่นภาคฤดูร้อน ภาคเข้าพรรษา การอบรมพระกัลยาณมิตร หลายโครงการฯ ดังนั้น จึงมีแนวคิดนำพระภิกษุจากโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ มาอบรมหล่อหลอมพร้อมกันในโครงการธรรมยาตราฯ ปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ สร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของความเป็นพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นการดำเนินตามมโนปณิธานของตั้งแต่เริ่มสร้างวัดพระธรรมกาย คือ สร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระแท้ และสร้างคนให้เป็นคนดี สำหรับปีนี้ พระภิกษุจากทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ มีจำนวนรวม 1,136 รูป มีพระเลี้ยง ที่จะให้การดูแล ทั้งเรื่องกิจวัตร กิจกรรม และการปฏิบัติธรรมอีกกว่า 300 รูป

นางสาวสุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ประธานชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ปทุมธานี ในอุปถัมภ์พระธรรมรัตนาภรณ์ กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการทำหน้าที่ชาวพุทธที่สมบูรณ์และปลูกฝังคุณสมบัติ ของชาวพุทธที่ดีตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา จึงเป็นที่มาของการรวมกลุ่มของประชาชน ในนามชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล ๕ ปทุมธานี ในอุปภัมภ์พระธรรมรัตนาภรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาทางชมรมฯ ได้ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายการคณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนดำเนินงานโครงการการฯ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อหนุนเสริมภารกิจ ของคณะสงฆ์ 6 ด้านมาโดยตลอดต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายใต้รูปแบบกิจกรรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ที่มุ่งสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ผ่านกิจกรรมตามนโยบายของคณะสงฆ์ อาทิ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5, โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (สร้างสัปปายะด้วยวิถี 5ส), โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่สถานศึกษา เป็นต้น ดังนั้น ทางชมรมฯ ในฐานะภาคีเครือข่ายผู้รับผิดชอบการดำเนินงานโครงการธรรมยาตราฯ ปีที่ 8 จะได้ประสานความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย พร้อมต่อยอด และยกระดับกิจกรรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ในพื้นที่ 6 จังหวัดดำเนินงาน เพื่อให้วัดมั่นคง ชุมชนชาวพุทธเข้มแข็ง สานสัมพันธ์เครือข่ายบวร ให้เกิดความยั่งยืนสืบไป

นายสันติ รุ่งสุขพลากรณ์ ประธานชมรมพุทธศาสตร์สากล ในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า โครงการธรรมยาตราฯ เป็นการบูรณาการกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้นักเรียนกว่า 8,000 คน จาก 150 โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการ V Star ได้ปฏิบัติจริงเพื่อเป็นเยาวชนที่เป็นคนเก่งและดี อาทิ การประชาสัมพันธ์งานบุญ การทอดผ้าป่าบำรุงศาสนสถาน การได้ร่วมกับพระสงฆ์ ผู้นำชุมชน และประชาชนดูแลรักษาความสะอาดวัดวาอาราม ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงด้านศีลธรรมให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนและพระพุทธศาสนา”

นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และผู้ประสานงานโครงการธรรมยาตราฯ ปีที่ 8 กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ถวายการต้อนรับคณะพระธรรมยาตรา อันเป็นการแสดงออกถึงความเคารพในพระรัตนตรัยและเป็นทางมาแห่งบุญตามหลักอปจายนมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่หรือผู้มีคุณธรรมสูงกว่าตน จึงจัดให้มีการต้อนรับพระธรรมยาตราฯ ขึ้นภายในอนุสรณ์สถานฯ โดยใช้ดอกเบญจทรัพย์ และดอกทรัพย์บานชื่น โทนสีชมพู ซึ่งเป็นสีที่แสดงถึงความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดีแก่กันและกัน ในลักษณะโปรยหรือวางบนพื้น ตามอย่างในพระไตรปิฎกที่ระบุว่า ครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าพระสาวกไปโปรดที่เมืองเวสาลี ชาวเมืองราชคฤห์ โปรยส่งด้วยดอกไม้ 5 สี และชาวเมืองเวสาลี โปรยรับด้วยดอกไม้ 10 สี ในประเด็นการตั้งชื่อดอกเบญจทรัพย์และดอกทรัพย์บานชื่นนั้น ใช้เรียกให้เป็นมงคล หากนำไปบูชาพระรัตนตรัยด้วยจิตที่เลื่อมใสแล้ว เชื่อว่าจะเป็นมงคลกับชีวิต ส่วนคำว่าทรัพย์ ที่ใช้เรียกในชื่อดอกไม้นั้น มุ่งหมายอวยพรให้สาธุชน เจริญรุ่งเรืองด้วยโลกียทรัพย์ อันเป็นทรัพย์ภายนอกทางโลก และอริยทรัพย์ อันเป็นทรัพย์ภายในทางธรรม ทั้งนี้ ไม่มีการซื้อขายต้นเบญจทรัพย์ หรือต้นทรัพย์บานชื่นแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังจัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระธรรมยาตรา 1,136 รูป และพิธีจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ณ อนุสรณ์สถานแห่งต่างๆ ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการฯ อีกด้วย”

ผู้สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดสดพิธีกรรมงานบุญที่จะเกิดขึ้นในโครงการฯ และติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ ได้ทางเว็บไซต์ www.gbnus.com หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Call Center ของโครงการฯ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 831 -1234

Leave a Reply