“เพชรวรรต” วอน “ปชช.” ตรวจสอบภาพสงฆ์ก่อนโพสต์ หวั่นทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสีย

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวในเฟซบุ๊กชื่อ “แม่ทัพลิง 3/1” โพสต์คลิปวิดีโอ พระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังทำพิธีกรรมบางอย่าง อยู่บนสนามหญ้าภายในวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งพระสงฆ์รูปดังกล่าวพ่นไฟออกมาจากปากหลายครั้ง พร้อมทั้งเป่าหอยสังข์ท่ามกลางชาวบ้านมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก พร้อมกับระบุข้อความว่า “หลวงพ่อครับพิธีกรรมอะไรครับนั้น พ่นไฟเอ๋ย เป่าหอยสังข์เอ๋ย”

โดยตนจึงได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้ทราบเรื่องว่า ด้าน เจ้าคณะอำเภอ ผอ.พุทธจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พระธวัชชัย ผู้เป่าหอยสังข์ เพียงแต่ได้เป่าหอยสังข์ที่มีน้ำมันจุดไฟอยู่ว่าการเป่าและมีไฟพ่นออกมาเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้สร้างปรากฏการปาฏิหาริย์แต่อย่างใด แต่มีผู้นำภาพไปโพสต์ต่อ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นพิธีกรรมนอกพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตามตนอยากจะฝากไปยังผู้โพสต์ข้อความ ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน ด้วยเพราะปัจจุบันพุทธศาสนาเสื่อมเสียมากแล้ว อยากให้ทุกคนช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา ทั้งนี้มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้โพสต์ทำให้พระสงฆ์เสื่อมเสียอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดพอสรุปข้อกฎหมายดังนี้

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษรกระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พศ.2550 ดังต่อไปนี้ด้วย มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 14 (5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Leave a Reply