“กมธ.ศาสนาฯ” ยุติพิจารณาข้อพิพาท “วัดชลประทานฯ” ชี้เป็น “อำนาจเจ้าอาวาส”

วันที่ 12 ก.พ. 66  สืบเนื่องจาก พระราชวัชรธรรมภาณี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ พระอารามหลวง อ้างว่าได้ร่วมกับหน่วยงานของรัฐบางหน่วย จัดทำโครงการ 5 ส. เพื่อปรับปรุงสถานที่เขตกัมมัฏฐาน (บริเวณหลังวัด) ซึ่งมีกุฏิที่พักอาศัยของสงฆ์จำนวนกว่า 70 หลัง แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 65 ก็ได้สั่งการให้มีการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่และคนงานเข้ามาทยอยรื้อทุบทำลายศาลาธรรมและเสนาสนะหรือกุฏิสงฆ์ในพื้นที่ดังกล่าวไปแล้วกว่า 11 หลัง และสั่งให้พระที่จำพรรษาอยู่ในกุฏิแต่ละหลัง (ช่วงเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 14 ก.ค. – 10 ต.ค.65) ออกไปเสียจากกุฎิตั้งแต่กลางพรรษาดังกล่าว ทำให้พระในวัดดังกล่าวจำนวนมากเดือดร้อน พร้อมกับร้องเรียนเจ้าอาวาสปฎิบัติหน้าที่มิชอบและมีการร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ  พร้อมกับร้องเรียนมายัง คณะกรรมาธิการศาสนาการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต่อมาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้นิมนต์ทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมจี้แจง พร้อมกับเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังความคิดเห็น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณากรณีดังกล่าวให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ว่า เจ้าอาวาสในดำเนินการตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 37 (1) ที่กำหนดให้เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี ส่วนปัญหากรณีความเห็นของพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นภายในวัด และการปกครองคณะสงฆ์ตามพระธรรมวินัย เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะสงฆ์ ดังนั้น ทางคณะกรรมาธิการการศาสนา ฯ จึงเห็นควรให้ยุติการพิจารณาเรื่องดังกล่าว..

Leave a Reply