การเมืองไทยเมื่อเข้าสู่โหมดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลังจากเปิดรับสมัครแล้ว จะมีอะไรน่าตื่นเต้น ระทึกใจไม่น้อย
นักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆที่เป็นผู้สมัครทั้งในแบบเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ รวมตลอดทั้ง รายชื่อนายกรัฐมนตรีที่พรรคการเมืองเสนอได้ไม่เกิน 3 ชื่อ
บัตรใบเดียว กาเบอร์ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งได้เบอร์เดียวเมื่อเข้าคูหาวันที่ 24 กุมภา พันธ์ 2562 จะส่งผลต่อการเมืองไทยและการได้มาซึ่งนายกฯและการจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับวุฒิสภา สมาชิกจำนวน 250 คนจะเป็นทั้งตัวจริงและตัวแปรสำหรับการเมือง ไทยในระยะเปลี่ยนผ่านอย่างน้อยก็ 5 ปีตามเทอมหรือวาระการดำรงตำแหน่งของส.ว.
ที่มาของส.ว. รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้เป็นการคัดเลือก 3 ทาง คือ
- เลือกกันเองตามกลุ่มอาชีพ/ประสบการณ์ 10 กลุ่มและวิธีการสมัคร (สมัครอิสระกับสมัครโดยองค์กรนิติบุคคลแนะนำชื่อ) ตั้งแต่ระดับอำเภอ เรื่อย มาถึงระดับจังหวัดและประเทศ คัดไว้ 200 คน ส่งให้คสช.เลือกให้เหลือ 50 คนเพื่อแต่งตั้งเป็นส.ว.
- คณะกรรมการ 9 – 12 คนที่คสช.แต่งตั้งไปดำเนินการคัดเลือกและสรรหา จำนวน 400 คน ส่งให้คสช.คัดให้เหลือ 194 คนเพื่อแต่งตั้งเป็นส.ว.
- ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำด้านความมั่นคง 6 ตำแหน่ง / 6 คน เป็นส.ว.โดยอัตโนมัติ
ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในวาระเริ่มแรก ช่วงบทเฉพาะกาล 5 ปี วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่สำคัญเพิ่มเติมขึ้นมาจากอำนาจหน้าที่ปกติตามรธน. 2560 ได้แก่
- ร่วมประชุมกับสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
- ติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตาม
หมวด 16 ของรธน. ว่าด้วย การปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
- ประชุมร่วมกับสภาผู้แทนฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศตามหมวด 16
จากอำนาตหน้าที่ดังกล่าวนี้ วุฒิสภาจึงมีบทบาทเป็นทั้งตัวจริงและตัวแปรทางการ เมือง
การเป็นตัวจริงก็คือ ส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย เช่นเดียวกับส.ส. ทำหน้าที่ กลั่นกรองกฏหมายที่ส่งมาจากสภาผู้แทนฯ การควบคุมการบริหารราชการ
แผ่นดิน การเห็นชอบบุคคลที่จะไปดำรงตำแหน่งสำคัญ การปฏิรูปประเทศ
ต้องประพฤติตนให้สมกับการเป็นผู้มีวุฒิภาวะ เป็นปากเป็นเสียงของประชาชน ประสานกับฝ่ายต่างๆเพื่อสร้างความปรองดอง และทำให้วุฒิสภาได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันสำคัญในการแก้ปัญหาของประเทศ
สำหรับการเป็นตัวแปรทางการเมือง หมายถึง การอภิปราย การให้ความเห็นของประ ธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา ประธานกรรมาธิการ และส.ว. รวมทั้งการ ลงมติต่างๆของวุฒิ สภา คณะกรรมาธิการ ส่งผลต่อรัฐบาล ต่อสภาผู้แทนฯที่แบ่งเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และอาจมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ตามธรรมชาติของการเมือง
ในหลายๆเรื่อง ส.ว.เป็นผู้ชี้ขาด
ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความสุขของประชาชน
เป็นพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 10 ที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วุฒิสภาจะต้องรับสนองฯและแสดงบทบาทเพื่อให้ไปถึงจุดนี้ให้ได้
การคัดเลือกและการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คนให้ได้บุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการมีอำนาจหน้าที่ เป็นส.ว.ที่พึงประสงค์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
///////////////////////////////////////
คอลัมน์ : ฟันธง
ผู้เขียน :บุญเลิศ ช้างใหญ่
Leave a Reply