เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (20 ม.ค.62) นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ประโยค 9 ได้โพสเฟชบุ๊คส่วนตัว โต้แม่ทัพภาค 4 กรณีโจรใต้ยิงปืนสังหารพระสงฆ์จนมรณภาพ 2 รูป และหนึ่งในนั่นถือว่าเป็นพระเถระผู้ใหญ่เป็นถึงระดับเจ้าคณะอำเภอ เป็นพระนักพัฒนา และเป็นพระภิกษุมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่และญาติในชุมชนนั้นด้วย มีรายละเอียดังนี้
มีผู้ส่งภาพประกอบข้อความมาทางไลน์กลุ่ม ภาพก็เป็นดังที่เห็นในภาพประกอบ ส่วนข้อความในภาพมีดังนี้ — แม่ทัพภาค 4 ผบช.ภ.9 ผู้ว่าฯ นราธิวาส ปลอบขวัญประชาชนในพื้นที่ หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มวัดฆ่าพระ ย้ำอย่าหลงกลผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าสร้างความแตกแยก – บาตรพระถูกยิงกระจุย! แม่ทัพภาค 4 ย้ำ -อย่าหลงกลผู้ก่อเหตุ -นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ทับบนภาพว่า – พูดแบบนี้เหมือนแก้ตัวให้โจรใต้เลย – ต่อไปนี้เป็นความเห็นของผม
คำว่า “ผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าสร้างความแตกแยก” ก็คงจะหมายความว่า การฆ่าพระไม่ใช่เป้าหมาย หากแต่เป็นวิธีการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย นั่นคือ “สร้างความแตกแยก”
การฆ่าพระจะ “สร้างความแตกแยก” ได้อย่างไร?
เป็นที่เข้าใจกันดีว่า พวกที่ฆ่าพระคือพวกมุสลิม จริงเท็จแค่ไหน คนทั่วไปก็เข้าใจกันอย่างนั้น เมื่อมีการฆ่าพระ ชาวพุทธย่อมจะโกรธแค้นมุสลิม – เมื่อโกรธแค้น ก็จะต้องก่อเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการแก้แค้น – ความแตกแยกระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมก็จะเกิดขึ้น – เป็นไปตามเป้าหมายของผู้ก่อเหตุ -นี่คืออรรถาธิบายในคำกล่าวที่ว่า “ผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าสร้างความแตกแยก”
ผู้ก่อเหตุจะใช้ความแตกแยกพุ่งเป้าไปที่อะไรต่อไปอีก เป็นเรื่องที่-ก็ต้องมีคำอธิบายกันต่อไป แต่ไม่อยู่ในขอบเขตที่ต้องการจะพูดในที่นี้
ขอบเขตที่ต้องการจะพูดในที่นี้มีเพียงแค่ว่า —
การที่คนร้ายหรือผู้ก่อเหตุหรือโจรใต้-แล้วแต่ใครจะเรียก-ฆ่าพระนั้น เป็นการ “สร้างความแตกแยก” ให้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว มิใช่หรือ?
หรือว่าฆ่าพระเสร็จแล้ว ความแตกแยกยังไม่เกิด?
ยังจะต้องมีใครไปทำอะไรต่อไปอีกชั้นหนึ่งเสียก่อนจึงจะเกิดความแตกแยก ซึ่งถ้าไม่มีใครไปทำอะไรที่ว่านั่น ความแตกแยกก็จะไม่เกิด-อย่างนั้นหรือ?
ทันทีที่ฆ่าพระ ความแตกแยกก็เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ยังจะต้องมีกลอะไรอีกให้ใครต้องหลงไปทำเข้า-กระนั้นหรือ?
หรือจริงๆ แล้ว มีใครอย่างน้อย 3 คน ที่หลงกลไปเรียบร้อยแล้ว?
Leave a Reply