เจ้าคุณสวีเดนทูตสันติภาพโลก เยี่ยมชมถ้ำอชันตา-แอลโลรา ชุมชนพุทธออรังกาบาด ประเทศอินเดีย

วันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2563 พระวิเทศปุญญาภรณ์ หรือเจ้าคุณสวีเดน เจ้าอาวาสวัดพุทธราม ประเทศสวีเดน ทูตสันติภาพโลก ได้เดินทางเยี่ยมวัดไทยอชันตา เมืองออรังกาบาด ฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย และเยี่ยมชมถ้ำอชันตา – แอลโลรา มรดกโลกและมรดกแห่งพระพุทธศาสนา 2,300 ปีที่ผ่านมา และในโอกาสนี้ได้มีโอกาสได้พบชาวพุทธดั้งเดิมแห่งอินเดียและชาวพุทธอินเดียตื้นตันดีใจ

“ในโอกาสนี้ได้สอนธรรมและสมาธิให้กับชาวพุทธอินเดีย รู้ตื่นตันใจยิ่งเป็นภาพน่าประทับใจที่ยากที่จะอธิบายได้ โดยในโอกาสนี้ได้เข้าเยี่ยมวัดไทยและมอบหนังสือคู่มือเดินทางไปต่างประเทศแด่พระธรรมทูตไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในวัดไทยและท่านได้เยี่ยมวัดพุทธอินเดียและมหาวิทยาลัยในออรังกาบาดด้วย” พระวิเทศปุญญาภรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ในโอกาสที่พระวิเทศปุญญาภรณ์ ได้เดินทางไปร่วมงานและบรรยายพิเศษ เรื่องสันติภาพโลก ที่มหาวิทยาลัยคุชราต เมืองอาห์มาดาบัด ประเทศอินเดีย โดยได้ปลุกชาวพุทธฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ ในงานมีการเดินเพื่อสันติภาพด้วยซึ่งมีประชาชนชาวอินเดียร่วมกว่า 3 พันคน จากนั้นได้มีพิธีการมอบรางวัลเพื่อสันติภาพแบบผู้นำพระพุทธศาสนาและผู้ที่ทำงานเพื่อสันติภาพจากทั่วโลก ในโอกาสนี้ได้รับถวายรางวัลสันติภาพผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพของโลกด้วย

 

ถ้ำอชันตา (อังกฤษ: Ajanta Caves, มราฐี ตั้งอยู่ในเมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อ พ.ศ. 350 โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นองค์เจดีย์ เป็นพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ เล่าเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดก ในปี พ.ศ. 2527 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย องค์การยูเนสโก

ส่วนที่ห่างกัน100 กิโลเมตร คือกลุ่มถ้ำเอลโลรา (Ellora Caves) แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกเป็นสถานจาริกของศาสนิกชนเรื่อยมาตั้งแต่แรกสร้างจวบจนปัจจุบัน ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าโบราณห่างจากตัวเมืองออรังกาบาดเพียง 30 กิโลเมตร

การก่อสร้างกลุ่มถ้ำเอลโลรานั้นยาวนานต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 600-1000 ผ่านการอุปถัมภ์หลายราชวงศ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดและวิหาร 34 แห่งแผ่ยาวกว่า 2 กิโลเมตรไปตามกำแพงผาหินบะซอลต์ซึ่งต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะและความเก่งกาจทางเทคโนโลยีเพื่อขุดเจาะเข้าไป ทั้งยังเป็นถ้ำปูชนียสถานที่อุทิศให้สามศาสนา คือ พุทธ ฮินดู และเชน แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งขันติธรรมอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของอารยธรรมอินเดียโบราณ

ในวันที่16-17 มกราคม เจ้าคุณสวีเดน มีกำหนดการพบและสนทนาธรรมกับนายกากาน มาลิก พระเอกหนังนักแสดงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะที่ได้นิมนต์ให้ท่านเยี่ยมเมือง Bombay เชิญชาวพุทธอินเดียและชาวพุทธไทย พบกับท่านได้ตามวันเวลาดังกล่าว

Leave a Reply