เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 เมษายน 2564 ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สายพระ พรรคเพื่อไทย จ.สกลนคร เผยกับผู้สื่อข่าวเรื่องความไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับอดีตพระเถระคดีเงินทอนวัด 5 รูปของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ว่าตนเคยได้รับโอวาทจาก สมเด็จพระวันรัต วัดบวรฯ ว่า “ประตูมีหู หน้าต่างมีช่อง” ซึ่งมีความหมายว่าจะทำอะไรก็จะมีคนรู้ภายหลังควรระวัง หลังจากที่มีการเผยความเป็นมาเป็นไปในกระแสข่าวจาก http://www.alittlebuddha.com ในหัวข้อ “ฟันธง (ชัย) ! สมเด็จธงชัยรับดาบจาก มส. ฟันอดีตเจ้าคุณธงชัยขาดจากความเป็นพระและอาจจะติดคุกคดีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ลามเอาผิดเจ้าคุณสุรชัยข้อหาสนับสนุน ลุยล้างป่าช้าวัดสระเกศ” เป็นเว็บไซต์ข่าวที่เชื่อถือได้ในข่าวเชิงลึกในวงการสงฆ์จะรู้ดี หากเรื่องราวเป็นอย่างที่ว่าจริง ตนก็หมดกำลังใจที่จะเป็น ส.ส.สายพระ ช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนาเพื่อให้อยู่ยืนยงคง 5,000 ปี ตนบวชเรียนอยู่ในผ้าเหลืองจนถึง ป.ธ.5 ไม่เคยเห็นเรื่องราวที่อื้อฉาวในวงการสงฆ์ขนาดนี้มาก่อน
สำหรับการที่จะเอา “สีข้างเข้าถู” เพื่อให้พระสึกโดยอ้างมาตรา 29-30 ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มันก็ไม่สามารถจะสึกท่านได้เพราะกฎหมายเขียนชัดว่า “สละสมณะเพศ” มันเห็นชัดอยู่แล้วว่า “สละ” ก็แปลว่า “เอาออก” ส่วนคำว่า “สมณะเพศ” ก็แปลว่า “เพศของพระ” รวมความหมายก็คือ “เอาผ้าเหลืองออก” เพื่อไม่เห็นว่าเป็นพระ ซึ่งเป็นการเคารพผ้าเหลืองซึ่งเป็นของสูงกฎแบบนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่จะต้องนำไปฝากขัง คนจะยิ่งใหญ่เพียงใหญ่จะใส่ชุดจอมพล หากจะต้องฝากขังก็ควรให้เกียรติชุดนั้นๆ ที่เป็นชุดที่มีเกียรติ พระก็เหมือนกันจะถูกฝากขังแล้วห่มจีวรแล้วไปอยู่ในคุก มันจะดีหรือไหม
ดร.นิยม กล่าวอีกว่า ถ้ามีคนถ่ายรูปออกมาให้เห็นอีกมันจะทำความเสื่อมเสียไหม กฎหมายจึงมีความจำเป็นต้องให้เอาผ้าเหลืองออกก่อน ส่วนหากจะให้พ้นจากการเป็นพระจริง พ.ร.บ.สงฆ์ ท่านเขียนชัดในมาตรา 26-28 ที่เขียนชัดว่า “สึก” แปลตรงๆ ถามเด็ก ป.6 ก็ยังรู้ สึกแปลว่า “ลาสิกขา” เมื่อ “ลาสิกขา” นั่นแหละคือการพ้นจากความเป็นพระ! ตอนนี้ตนขอวอนผู้มีอำนาจอย่าเอาการเมืองมาเล่นในวงการสงฆ์เลย จากศึกภายนอกก็มากอยู่แล้ว เจอสึกภายในอีกถึงขนาดเอาข้าราชการประจำเอามาเป็นเครื่องมือเล่นพรรคเล่นพวกเอาอดีตพระเบี้ยแลกขุนมาปั่นกระแส โดยไม่รู้จัก “ผิดชอบชั่วดี” มันจะเป็นบาปอันใหญ่หลวง ตนขอวอนอย่าทำอย่างนี้เลย
Leave a Reply