เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2564 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดยานนาวา จัดพิธีมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ณ อาคารมหาเจษฎาบดินทร์ ชั้น 3 วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายเกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร) ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณาสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดยานนาวาได้รับทราบถึงปัญหาที่ประชาชนทุกระดับต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)โดยมีดำริให้ดำเนินงาน “ศาสนสงเคราะห์” ที่สะท้อนถึงบทบาทของวัด พระสงฆ์ในการทำหน้าที่บ่มเพาะคุณธรรม เป็นศูนย์รวมใจแก่คนในชุมชน และยังแสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทยในเรื่องของการมีน้ำใจภายใต้มิติทางศาสนา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของภาคคณะสงฆ์และทุกภาคส่วนของสังคม จึงได้จัดทำโครงการ “ศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกันรวมพลังบวรไทยสู้ภัยโควิด – 19” เพื่อบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชน โดยจัดถุงเครื่องอุปโภคบริโภคอุปกรณ์พื้นฐานทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมทั้งจัดกิจกรรมสวดมนต์/ปฏิบัติธรรมเรียนรู้ธรรมะออนไลน์เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยน้อมนำหลักธรรมศาสนามาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในยามลำบาก โดยดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564 ณ วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในมุมกว้าง เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤตินี้ไปพร้อมกันรัฐบาลและภาคส่วนต่างๆ ของสังคมต่างร่วมใจช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกประทานพระดำริว่าวัดหลายแห่งในประเทศไทยมีอาคารสถานที่โรงครัวอุปกรณ์บุคลากรและปัจจัยอื่นๆ ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนในการบรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ เช่น การจัดเตรียมอาหารการตั้งโรงพยาบาลสนามการบริจาควัตถุปัจจัยหรือการเอื้อเฟื้อพื้นที่สำหรับบริหารจัดการด้านต่างๆ โดยขอให้คณะสงฆ์และวัดที่มีศักยภาพประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนตามที่ได้รับการร้องขอและประสานความเข้าใจร่วมกันกับชุมชน ตามกำลังความสามารถเพื่อประโยชน์เกื้อกูลด้านสาธารณสงเคราะห์
อันเป็นหนึ่งในบทบาทหน้าที่สำคัญของคณะสงฆ์ทั้งนี้ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านต่างๆของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดกระทวงวัฒนธรรม เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่พิจารณาเห็นถึงปัญหาดังกล่าว เพื่อเป็นการรับสนองพระดำริของสมเด็จพระสังฆราชและรับนโยบายของรัฐบาลเรื่องลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงได้จัดทำโครงการ “วัฒนธรรม ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกัน” โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศขับเคลื่อนการดำเนินงานไปยังผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ เพื่อนำมิติทางศาสนากล่อมเกลา เยียวยาจิตใจประชาชน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมกรมการศาสนา ได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศร่วมกับศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่มีศักยภาพและความพร้อมดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชุมชน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสะท้อนถึงบทบาทสำคัญยิ่งของวัด พระสงฆ์ในการเป็นศูนย์รวมจิตใจช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในยามยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และแสดงถึงอัตลักษณ์ของสังคมไทยที่เชื่อมร้อยพลังบวร (บ้าน-วัด-โรงเรียน/ราชการ)แห่งการเกื้อกูลแบ่งปัน อย่างทั่วถึงเท่าเทียมอย่างแท้จริง
Leave a Reply