สมเด็จพระสังฆราชประทานวรธรรมคติ ที่ประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา

สมเด็จพระสังฆราชประทานวรธรรมคติ ที่ประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ย้ำเตือนพระธรรมทูตทั่วโลก ยึดมั่นในขันติธรรมหนึ่งในหลักโอวาทปาติโมกข์ แผ่ธรรมเสริมสันติสุขแก่ชาวโลก พระพรหมวชิรญาณเผยมอบ ‘มจร’ ออกแบบพัฒนาเน้นเรียนออนไลน์เพิ่มทักษะยุคดิจิทัล

วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ตามเวลาท้องถิ่น ที่วัดสัทธาธรรม มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 43/2562 โดยมีพระธรรมทูตในประเทศสหรัฐอเมริกา และพระธรรมทูตจากทั่วโลกกว่า 350 รูป เข้าร่วม

ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานวรธรรมคติ เพื่อกระตุ้นการทำงานของพระธรรมทูตโดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “การทำงานพระธรรมทูตเพื่อเสริมสร้างสังคมโลกให้เกิดสันติสุขนั้น ย่อมเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานร่วมกับบุคคลที่มีความคิดและความเชื่อที่แตกต่าง ฉะนั้น จึงขอให้พระธรรมทูตยึดมั่นในหลักโอวาทปาติโมกข์ที่พระองค์ได้ตรัสว่า ความอดทนคือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้ชาวโลกได้รับประโยชน์จากหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์”

พระพรหมวชิรญาณ ได้ย้ำว่า เจตนารมณ์ในการจัดตั้งสมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อแสวงหาแนวทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าไปช่วยคลี่คลายปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตในประเทศสหรัฐอเมริกา องค์กรนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์ แต่ออกแบบมาเพื่อให้เอื้อต่อการทำงานของพระธรรมทูต อย่างไรก็ตามปัญหาและอุปสรรคสำคัญของพระธรรมทูต คือ ทักษะการใช้ภาษา และความเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศ และชุมชนต่างๆ ที่พระธรรมทูตออกไปเผยแผ่ ด้วยเหตุนี้ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เพื่อเข้ามาทำหน้าออกแบบการพัฒนาและฝึกอบรมพระธรรมทูต

พระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดี มจร ได้นำเสนอว่า ในโอกาสที่เรามี พรบ.การศึกษาของตัวเองนั้น ขอให้สมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดวางโครงสร้างและแนวทางการการทำงานเพื่อพัฒนาการศึกษาด้านปริยัติธรรม และบาลีในประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะที่การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ เพราะหากสามารถวางรากฐานการศึกษาสำเร็จ จะทำให้การศึกษาพระพุทธศาสนาเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

อธิการบดี มจร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ มหาจุฬาฯ ได้ตั้งวิทยาลัยพระธรรมทูตขึ้นมาเพื่อตอบสนองการพัฒนาศักยภาพการทำงาน และการพัฒนาพระธรรมทูตให้สามารถตอบโจทย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาระดับโลกได้อย้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“มหาจุฬาฯได้จัดวางนโยบายให้วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ได้ทำหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนในลักษณะการเรียนแบบออนไลน์ โดยการเปิดพื้นที่ให้มีการระดับประกาศนียบัตร และวุฒิบัตรหลักสูตรสติ และสมาธิ ซึ่งชาวโลกกำลังให้ความสนใจเพิ่มสูงขึ้นมาก และ มจร มีศักยภาพด้านนี้ ทั้งนี้วัดต่างๆ สามารถเป็นช่องทางในดึงกลุ่มคนต่างๆ เข้ามาศึกษา เรียนรู้ และปฏิบัติร่วมกัน” พระราชปริยัติกวี กล่าว

ขณะที่เดียวกันที่ประชุมได้กระตุ้นให้มีการพัฒนาพระธรรมทูตอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ความต้องการของชาวโลก แล้วออกแบบหลักสูตรเพื่อพัฒนาพระธรรมทูตให้สอดรับกับความต้องการของชาวโลก ทั้งนี้ที่ประชุมได้เน้นว่าควรพัฒนาพระธรรมทูตให้มีทักษะการสอนสติและสมาธิอย่างเข้าใจและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียว ทักษะที่สำคัญที่ต้องพัฒนาร่วมคือ ทักษะการสื่อสารทางภาษา และการเข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการเผลแผ่พระพุทธศาสนาในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น

Leave a Reply