“บิ๊กป้อม”ตาสว่าง! สั่งปรับแผนแม่บท เพิ่ม “โคกหนองนาโมเดล” เสริมแก้น้ำท่วมทะเลหนุน

พล.อ.ประวิตร ติดตามแผนแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ สั่งเร่งระบายน้ำ จากภาวะน้ำทะเลหนุน ลดผลกระทบ ปชช. ปรับแผนแม่บทเพิ่ม “โคกหนองนาโมเดล” เสริมแก้น้ำท่วม เก็บน้ำสำรอง เน้นประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 64 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2564 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงาน ตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี64 ที่ผ่านมา อาทิ การซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ จำนวน 2,312 แห่ง(99%) และสถานีโทรมาตร จำนวน 4,209 แห่ง(89%) ,การขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา รวม 5,319,444 ตันในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก และการขุดเจาะบ่อบาดาล ก่อสร้างระบบกระจายน้ำ จำนวน 2,498 บ่อ เติมน้ำใต้ดิน จำนวน 998 แห่ง เป็นต้น และได้รับทราบความก้าวหน้า โครงการบริหารจัดการน้ำระยะยาว อย่างยั่งยืน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้เร่งรัด สทนช. ให้บูรณาการหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อน แผนงานให้ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงให้ศึกษาการแก้ปัญหาการป้องกันน้ำเค็มในปี65 ด้วย นอกจากนั้นที่ประชุม ยังได้รับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงกรอบแนวทางแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยให้มีการเพิ่มเติมแนวทางการพัฒนา”โคกหนองนาโมเดล” เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำสำรอง และใช้เก็บน้ำเมื่อประสบภัยน้ำท่วม ต่อมาที่ประชุมได้มีการพิจารณา รายงานผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี(ช่วง2561-2564) และรายงานตัวชี้วัดความมั่นคงน้ำ พร้อมทั้ง ได้เห็นชอบให้ใช้ระบบ Thai Water Assessment เป็นเครื่องมือในการติดตามประเมินผลโครงการด้านทรัพยากรน้ำโดยมอบให้หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องรายงานผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ ธ.ค.64 เป็นต้นไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้แสดงความพอใจ ผลคืบหน้าตามแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำ 20 ปี ที่ผ่านมา พร้อมทั้ง กำชับ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องให้ความสำคัญ อย่างเร่งด่วน ต่อปัญหาที่ส่งผลกระทบประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาจากน้ำทะเลหนุนในขณะนี้ และปัญหาน้ำเค็มรุก ควบคู่กับการแก้ปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้งให้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาของประเทศ อย่างยั่งยืน พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้ สทนช.ตั้งคณะทำงานการประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจให้แก่ประชาชนได้รับทราบข่าวสาร อย่างถูกต้อง ต่อเนื่อง รวดเร็ว และทันเวลา ต่อไป

Leave a Reply