“ประวัติศาสตร์เมืองตราด History of Trat” “ปลัดมหาดไทย” พร้อมผลักดันเป็น Soft Power ส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำความกตัญญู คือ สิ่งที่สำคัญในการสร้างความรักเเละความภาคภูมิใจของความเป็นชาติไทย
Post navigation
Posted in:
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานเเก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ณ ศาลาดุสิดาลัย มีพระราชดำรัสสำคัญตอนหนึ่ง ว่า “…เพราะเราจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ที่ประเทศไทยบรรพบุรุษของเราสละชีวิตมาเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน มาด้วยเลือดเนื้อ ด้วยชีวิต แต่เสียดายตอนนี้ท่านนายกฯ เขาไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์แล้วนะ ฉันก็ไม่เข้าใจ เพราะตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีประวัติศาสตร์อะไรเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องเรียนประวัติศาสตร์ของสวิส แต่เมืองไทยนี่บรรพบุรุษเลือดทาแผ่นดิน กว่าจะมาถึงที่ให้พวกเราอยู่นั่งอยู่กันสบาย มีประเทศชาติ เรากลับไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์ ไม่รู้ว่าใครมาจากไหน เป็นความคิดที่แปลกประหลาด อย่างที่อเมริกาถามไปเขาก็สอนประวัติศาสตร์บ้านเมืองเขา ที่ไหนประเทศไหน เขาก็สอน แต่ประเทศไทยไม่มี ไม่ทราบว่าแผ่นดินนี้รอดไปอยู่จนบัดนี้เพราะใคร หรือว่ายังไงกัน อันนี้น่าตกใจชาวต่างประเทศยังไม่ค่อยทราบว่า นักเรียนไทยไม่มีการสอนประวัติศาสตร์ชาติเลย…”
“หนังสือ “ประวัติศาสตร์เมืองตราด History of Trat” ผม เเละ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำหนังสือ รวมถึงคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กอง บก.ศิลปวัฒนธรรม บมจ.มติชน และผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตหนังสือเล่มนี้ทุกท่าน ต่างมีความตั้งใจที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์กระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ สถานศึกษา มหาวิทยาลัย ฯลฯ เพื่อสร้างเเรงบันดาลใจให้ทุกจังหวัดได้สร้างความตระหนักถึงประวัติศาสตร์ประจำถิ่นเเละประวัติศาสตร์ของประเทศชาติ พร้อมทั้งร่วมส่งเสริม Soft Power ที่เป็นความภาคภูมิใจให้เกิดประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และด้านต่าง ๆ เเละได้ร่วมกันสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา เเละต่อยอดให้พสกนิกรของพระองค์ท่านได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ดั่งพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในหนังสือสะพาน : รวมบทความทางประวัติศาสตร์ เล่ม 2 ความว่า “…ประโยชน์อย่างหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์ คือ ช่วยให้ผู้ศึกษาได้รู้จักใช้ ความคิด รู้จักหาเหตุผลจากข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ เป็นการลับสมอง และทำให้ได้รับความรู้อันเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิต และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ในแง่นี้ ประวัติศาสตร์มิได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่รวบรวมไว้เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการตีความ ประเมินคุณค่าของข้อมูลในแง่มุมใหม่ๆ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้อยู่เสมอ) รวมทั้งยังเป็นการคาดคะเนแนวโน้มในอนาคตด้วย” จึงขอให้พวกเราทุกคน ทั้งท่านผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการ และภาคีเครือข่าย ได้ทำให้พี่น้องคนไทยทุกคนเรียนรู้ประวัติศาสตร์และพินิจพิเคราะห์ พิจารณาว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ คนบางคนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครอบครัว หรือเป็นทั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ วันนี้เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ได้มาร่วมกันมอบหนังสือที่เป็นองค์ความรู้ที่สำคัญ ทำให้นักเรียนที่เป็นลูก ๆ หลาน ๆ ได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา รากเหง้าของความเป็นไทย เเละความภาคภูมิใจที่บรรพบุรุษของเราได้เสียสละ ได้สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เเละอุทิศให้ด้วยความมานะ วิริยะ อุตสาหะ จนเป็นชาติไทยที่มั่นคง ให้คงอยู่และต่อยอดตามยุคตามสมัยอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
Leave a Reply