วันที่ 3 ก.พ. 65   ตำรวจ บก.ปปป.สนธิกำลังตำรวจ บก.ปคม.บก.ปอท. บก.ทล. บก.รฟ. กว่า 60 นาย เปิดปฏิบัติการ “ปราบผีเปรต” ลุยค้น 4 จุดในนครสวรรค์ ยึดทรัพย์แก๊งไวยาวัจกรวัดห้วยด้วนคาบ้านพัก พบรถยนต์ ปืน เงินสด โฉนด เหรียญหลวงพ่อพัฒน์ ทั้งเนื้อทองคำและเนื้ออื่นๆนับหมื่นเหรียญ ตำรวจจ่อแจ้งข้อหากับไวยาวัจกรพร้อมพวกรวม 4 คน หลังนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ “ปราบผีเปรต” เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2.บก.ปปป. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ บก. ปคม. บก.รฟ. บก.ปอท. บก.ทล. กว่า 60 นาย รวมตัวกันที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงหนองบัว ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เพื่อเปิดปฏิบัติการ “ปราบผีเปรต” ลุยค้น 4 จุดใน จ.นครสวรรค์ ตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งติดตามอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาขบวนการทุจริตยักยอกเงินของวัดธารทหาร หรือวัดห้วยด้วน มาตรวจสอบ พร้อมประสานขอสนับสนุนกำลังจากหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) กก.สืบสวน บก.ภ. จ.นครสวรรค์ นำเครื่องตรวจจับโลหะเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้อีกด้วย หลังพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวนำเงินที่ได้แปรเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินของมีค่าจำพวกทองคำ อาจซุกซ่อนใต้พื้นดินบริเวณบ้านเป้าหมาย

จุดสำคัญในการตรวจค้นครั้งนี้อยู่ที่บ้านเลขที่ 103/4 หมู่ 9 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ของนายเสนาะ ทองปรอน อายุ 65 ปี ไวยาวัจกรวัดห้วยด้วน เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ด้านหน้ามีกระท่อมอยู่ 1 หลัง ด้านข้างเป็นโรงเรือนเลี้ยงหมู ด้านหลังติดลำคลอง ภายในโรงรถมีรถตู้โตโยต้า มาเจสตี้ 1 คัน รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน รถเก๋งโตโยต้า วีออส 1 คันจอดอยู่ ตรวจค้นภายในกระท่อมพบเหรียญพระเนื้อทองคำนับสิบเหรียญแต่ละเหรียญมีมูลค่าสูงถึง 2-3 แสนบาท เหรียญเนื้อโลหะหลวงพ่อพัฒน์ รุ่นต่างๆ ตั้งแต่รุ่นในอดีตถึงปัจจุบันกว่าหมื่นองค์ เงินสดกว่าหนึ่งล้านบาท ปืน 4 กระบอก โฉนดที่ดินนับสิบรายการมูลค่าหลายสิบล้านบาท

ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือน ต.ค.64 มี กลุ่มลูกศิษย์ของพระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ปญุ ญกาโม) หรือหลวงพ่อพัฒน์ ปญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เข้าร้องทุกข์กับ บก.ปปป. ให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มไวยาวัจกรของวัดและคนใกล้ชิดที่มีอำนาจดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัด หลังพบพฤติการณ์ต้องสงสัยทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วนและมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ฯ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี พร้อมขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้

ต่อมาตำรวจ บก.ปปป. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนพบว่าในช่วงระหว่างปี 63-64 มีผู้ใจบุญนำเงินมาทำบุญมอบให้วัดเป็นเงินรวมกว่า 200 ล้านบาท ในจำนวนนี้วัดนำไปใช้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมสร้างโรงเรียนในพื้นที่เป็นเงิน 30-40 ล้านบาท ที่เหลือไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ทำอะไรหรือนำไปเก็บไว้ที่ใด ตำรวจจึงไล่แกะเส้นทางการเงิน กลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ประกอบด้วย นายเสนาะ ทองปรอน อายุ 65 ปี นางชัญญา เพชรสายบัว อายุ 57 ปีและนางบุญเชิด สุขจิตร อายุ 58 ปี อย่างละเอียดก่อนพบหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 3 คนนําเงินของวัดไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท จึงอายัดเงินดังกล่าวส่งคืนให้หลวงพ่อพัฒน์ พร้อมเชิญตัวบุคคลทั้ง 3 คนมาสอบปากคำและดำเนินคดีพร้อมเร่งติดตามเงินที่เหลืออีกหลายสิบล้านบาท ก่อนสรุปสำนวนสอบสวนส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา จนมีความเห็นให้ส่งคดีนี้กลับมาให้พนักงานสอบสวนบก.ปปป.ดำเนินการนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเพื่อสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมรวมถึงการยึดอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบหาที่มาให้ชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่

หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า สำหรับผลการเข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้ง 4 จุด เป็นบ้านพักของนายเสนาะ ทองปรอน อายุ 65 ปี นางชัญญา เพชรสายบัว อายุ 57 ปี นางบุญเชิด สุขจิตร อายุ 58 และนายคิมหันต์ ตลับนาค อายุ 32 ปี ตรวจยึดสิ่งของต้องสงสัยไว้จำนวนมาก อาทิ เงินสด 3 ล้านบาท เงินในบัญชีอีกประมาณกว่าหนึ่งล้านบาท โฉนดกว่าสิบฉบับรวมพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ รถยนต์ ปืน อีกจำนวนหนึ่งเตรียมนำของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.และ สภ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ดำเนินการ หลังจากนี้จะนำตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 4 คนไปสอบสวน ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้นเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาข้อกล่าวหา

ข้อมูล.ไทยรัฐ