พช.ศรีสะเกษ เดินหน้าสืบสานอนุรักษ์ผ้าไทย ชูผ้าอัตลักษณ์เบญจศรี “ผ้าศรีลาวา ผ้าศรีกุลา ผ้าศรีมะดัน ผ้าศรีลำดวน และผ้าศรีมะเกลือ” ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากสร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน วันที่ 14 ตุลาคม 2564 นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายวัฒนา พุฒิชาติ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรราชธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และจากพระราชประสงค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอยากเห็นคนไทยอยู่ดีกินดีจากอาชีพเสริมด้วยการทอผ้า “วันนี้ ผ้าไหมไทยมิได้ช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้านเท่านั้น หากโลกยังให้การยอมรับผ้าไทย โดยเฉพาะผ้าไหมไทยซึ่งเป็นผ้าอันดับหนึ่งของโลก” จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายทังภาครัฐและเอกชน ได้น้อมนำและดำเนินการ สืบสาน รักษา ต่อยอด มาขับเคลื่อน ผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ จากเดิมมีการทอผ้าลายลูกแก้วย้อมจากผลมะเกลือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการย้อมดั้งเดิมของชาวอีสานใต้ ได้ผ้าสีดำขลับ มีข้อจำกัดคือไม่หลากหลายในการใช้สวมใส่ เนื่องจากเป็นสีดำ และ เป็นผ้าหน้าแคบ ไม่สะดวกต่อการแปรรูปเป็นเสื้อผ้า โดยได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น การขับเคลื่อนผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ และ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดศรีสะเกษ : ยกระดับสินค้าการเกษตร การค้า และการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและแข่งขันได้ และจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดให้วาระผ้าทอมือ “ธานีผ้าศรี…แส่ว” เป็น 1 ใน 10 ของวาระจังหวัด ที่จะขับเคลื่อนในปี 2564 จัดตั้ง คอนเซบต์/MOTTO เพื่อง่ายต่อสื่อสาร สร้างความเข้าใจ สร้างกระแสการรับรู้ ได้แก่ “ศรีสะเกษธานี ผ้าศรี …แส่ว” ภายใต้แบรนด์ “ผ้าทอเบญจศรี” โดยนำคำว่า “ศรี” ซึ่งเป็นคำแรกของจังหวัดศรีสะเกษ มาเป็นคำแรกของชื่อเรียกผ้าแต่ละประเภทผ้า 5 ชนิด ประกอบด้วย ผ้าศรีลาวา ผ้าศรีกุลา ผ้าศรีมะดัน ผ้าศรีลำดวน และผ้าศรีมะเกลือ เพิ่มมูลค่าด้วยการ “แส่ว” เป็นอัตลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวจังหวัดศรีสะเกษ มีลวดลายสวยงาม หลากหลาย ได้แก่ ลายหางสิงห์ ลายตีนตะขาบ ลายขามดแดง อันเป็นลายดั้งเดิมที่ใช้ประโยชน์ ในการเก็บชายผ้าไม่ให้หลุดลุ่ยหรือต่อผ้าสองชิ้นให้เป็นชิ้นเดียวกัน ผสมผสานกับลายประยุกต์ เช่น ลายเชิงเทียน ลายดอกไม้ เพื่อใช้ประดับ ให้เสื้อผ้ามีความวิจิตรสวยงาม จากการขับเคลื่อนผ้าอัตลักษณ์ศรีสะเกษ “ธานีผ้าศรี……แส่ว” ทำให้เกิดการบูรณาการทำงานของภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชน และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน นำอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ มาต่อยอด สร้างคุณค่า สร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดให้เกิดอาชีพ สร้างรายได้ให้กับภูมิปัญญาด้านการทอผ้าและผลิตผ้าพื้นเมืองที่มาจากหมู่บ้านและชุมชน และลดความเหลื่อมทางสังคม ผู้ด้วยโอกาส เยาวชน สตรี ผู้สูงวัย และกลุ่มเปาะบาง ได้มีอาชีพจากการทอผ้า เกิดพลังเครือข่ายผ้าทออัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ อันเป็นการสืบสานมรดก ทางวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดศรีสะเกษ การพัฒนาผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ อัตลักษณ์ศรีสะเกษ เป็นการขับเคลื่อนงานตามวิสัยทัศน์ กรมการพัฒนาชุมชน ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ จังหวัดศรีสะเกษมีอัตลักษณ์ที่สำคัญในหลายๆด้านที่เป็นที่รู้จัก เช่น ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ รสเลิศ ไก่ย่างไม้มะดันชวนชิมที่มีชื่อเสียงโด่งดัง พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ที่สามารถปลูกข้าวหอมมะลิที่มีกลิ่นหอม และ มีต้นลำดวนที่เป็นต้นไม้ประจำจังหวัด โดยนำเอาอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ มาต่อยอดสร้างคุณค่าสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดให้เกิดอาชีพเกิดสัมมาชีพชุมชน เป็นผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ 5 ชนิด ตามพื้นที่แหล่งวัตถุดิบ ได้แก่ ผ้าศรีลาวา ในพื้นที่ดินภูเขาไฟ ผ้าศรีกุลา ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ผ้าศรีลำดวน ในพื้นที่ที่มีต้นลำดวน ผ้าศรีมะดัน ในแถบลุ่มน้ำที่ใช้ประโยชน์ไม้มะดัน ผ้าศรีมะเกลือ มาต่อยอดให้เกิดสินค้า OTOP ที่ทำได้ตลอดปีไม่มีฤดูกาล สร้างรายได้แก่กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP และประชาชนชุมชนจะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากชุมชนเข้มแข็งได้อย่างแท้จริง เพิ่มมูลค่าด้วยการแส่ว มีผู้ประโยชน์ ดังนี้ 1. เกิดผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ จาก 1 ชนิด เพิ่มเป็น 5 ชนิด เรียกว่า “ผ้าเบญจศรี” จำนวน 1,458 กลุ่มผู้ประกอบการ 2. รายได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าและเครื่องแต่งกาย มียอดจำหน่าย ณ วันที่ 28 กันยายน 2564 จำนวน 1,190,689,026 บาทและข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product : GPP) ของจังหวัดศรีสะเกษเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับ 2 และรายได้ของประชากรเฉลี่ยต่อคนสูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ) 3. ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความยากจนและพัฒนาคุณชีวิตผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง (นักโทษหญิงในเรือนจำ) โดยงบประมาณจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 131 กลุ่ม สมาชิก 5,755 คน 4. โครงการร้อยดวงใจจากภูมิปัญญา สู่ผืนผ้าชาวศรีสะเกษ ในงานฉลองครบรอบ 238 ปีจากข้อมูลพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ มีการซื้อเสื้อผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ 22,238 คน เป็นเงิน 16,677,500 บาท และการมีส่วนร่วมของกลุ่มทอผ้า โดยต่อผืนผ้าพื้นเมือง ผ้าเบญจศรี มีความยาวจำนวน 283 เมตร จาก 22 อำเภอ โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ 5. การถ่ายทอดบทเรียนไปสู่สาธารณะเพื่อพัฒนาการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และ 6. การได้รับมาตรฐาน นายชัยยงค์ ผ่องใส รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาในการจัดกิจกรรมรณรงค์สวมใส่ผ้าไทยตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ให้มีการสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน โดยจังหวัดศรีสะเกษ ได้ใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนวาระผ้าทอในการจัดกิจกรรมนุ่งผ้าไทยใส่บาตร ทำความดีวิถีพอเพียง ที่ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกวัน เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายอีกทาง ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้ขับเคลื่อนวาระผ้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดกิจกรรมเปิดตลาดโบราณ “ลานออดหลอด ซอดศรีเกษ” ณ ศูนย์โอทอปศรีสะเกษเป็นประจำทุกเดือน การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า “มหกรรม OTOP ของดี๊เมืองศรีเกษ” ภายใต้โครงการ จัดแสดงและจำหน่าย OTOP กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 โครงการการค้าการลงทุนกลุ่มจังหวัดเชื่อมโยงอาเชียน ประจำปี ณ ลานอะควาเรียม เซ็นทรัลพลาซ่าอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษได้มีแคมเปญ “หน้าร้านมีขาย ออนไลน์มีส่ง” เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ OTOP ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 เพื่อสร้างค่านิยมและการตระหนักรับรู้รักษามรดกและอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของไทย และอนุรักษ์ต่อยอดภูมิปัญญาพัฒนาผ้าไทยเพื่อเป็นสินค้าเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากสร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน สำหรัดท่านที่สนใจผ้าพื้นถิ่นของจังหวัดศรีสะเกษ และสินค้า OTOP ประเภทอื่นๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไชต์ https://sisaket.cdd.go.th จำนวนผู้ชม : 202 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เดินทางปฎิบัติศาสนกิจ “อิตาลี- ฝรั่งเศส” อุทัย มณี มิ.ย. 10, 2023 วันที่ 10 มิ.ย. 66 สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม… ร.ร.สาธิตกรุงเทพธนฯนำนั่งสมาธิปรับใช้ เสริมกิจกรรมรู้ตื่นสร้างรากฐานคุณธรรม อุทัย มณี มิ.ย. 12, 2019 วันที่ 12 มิ.ย.2562 ครูเอิร์น-จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการบริหาร… จจ.สมุทรสงคราม นำคณะสงฆ์ดูงาน “โคก หนอง นา วังอ้อ โมเดล” จ.อุบลฯ อุทัย มณี ก.ย. 08, 2022 วันที่ 8 กันยายน 2565 วานนี้ พระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม… “เจ้าอาวาสไม่ทน” ฉีกบันทึกข้อตกลงกับบิ๊กโจ๊ก เตรียมยื่นฟ้องขับไล่โดยตรงกับศาล คดี สว.กิตติศักดิ์ สำนวนอยู่ในมือตำรรวจ ดำเนินล่าช้า อุทัย มณี ก.ย. 17, 2023 วันที่ 17 กันยายน 2566 นายสุมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล… “ผอ.พุทธขอนแก่น” ช็อค!! ถูกแก๊งค์มิจฉาชีพดูดเงินเกลี้ยงบัญชีกว่า 1 ล้านบาท อุทัย มณี ก.พ. 12, 2024 วันที่ 12 ก.พ.67 เพจ "ข่าวสารพระพุทธศาสนา" ได้โพสต์เรื่องเล่า "ผอ.สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น"… พระนานาชาติยุโรปปฏิบัติกิจสงฆ์บิณฑบาตโปรดญาติโยม อุทัย มณี มิ.ย. 28, 2019 วันที่ 28 มิ.ย.2562 ภายหลังจากสวดมนต์ทำวัตรเช้า พระธรรมทายาทในโครงการอุปสมบทหมู่นานาชาติ… สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ออกประกาศแจงปม แพร่ข่าวสถานการณ์โควิดในวัดราชบพิธ อุทัย มณี เม.ย. 17, 2021 เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช… พลัง “บวร” มหานครโคก หนอง นา ปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อุบลราชธานี อุทัย มณี ต.ค. 07, 2022 วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี… กอ.รมน.ส่งชาวพุทธใต้แสวงบุญ ประเทศอินเดีย-เนปาล อุทัย มณี มี.ค. 20, 2019 เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม 2562) ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่… Related Articles From the same category พิษโควิด-19! “พระพรหมบัณฑิต”กก.มส.ต้องบรรยายออนไลน์ แก่ผู้อบรมเป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 26 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 13.00… ศาลสั่งจำคุก 6 จำเลย 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ทำลายวัด-ปิดรร. ขับไล่เจ้าคณะจังหวัด ศาลจังหวัดทุ่งสง เมืองคอน พิพากษาจำคุก 6 จำเลย 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท… “เจ้าคณะปทุมธานี-สมเกียรติ” พบ “อนุชา” เสนอผลฟื้นฟูศีลธรรม ร.ร.รักษาศีล 5 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.256 เวลา 14.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี… “เทวัญ”ร่วมรับ 171 คณะสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรมเดินทางกลับจากอินเดีย วันที่ 24 เม.ย.2563 เวลา 17.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ… ปลัดมหาดไทยมอบนโยบายกรม ปภ. เน้นย้ำ ร่วมกัน Change for Good เพื่อเป็นองค์กรแห่งการป้องกันภัยบนพื้นฐานของหลักวิชาการ สร้างพลังการมีส่วนร่วมของ อปพร. รุ่นใหม่ วันที่ 2 ธ.ค. 64 เวลา 13.30 น. ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย…
Leave a Reply