วัดพระธรรมกาย “ปลื้ม”จัดงานวิสาขบูชาสำเร็จ “ลุย” ร่วมจัดตั้ง “สมัชชาสงฆ์เถรวาทอินโดนีเซีย” ต่อ

วันที่ 19 พ.ค. 65  เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วการจัดงาน “งานวิสาขบูชาโลก”  ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจัดขึ้นโดยมีพุทธสามาคม “WALUBI” เป็นแม่งานในการจัดงานและมีสมาคมชาวพุทธในประเทศอีกกว่า 15 สมาคมร่วมจัด รวมทั้งมีคณะสงฆ์จากต่างประเทศ เช่น ประเทศไทย ไต้หวัน ศรีลังกา กัมพูชา และมูลนิธิวัดพระธรรมกายร่วมจัดด้วย หนึ่งในนั้นมีสมาคมพุทธศาสนาเถรวาทประจำอินโดนีเซีย อันมีคณะสงฆ์จากประเทศไทยทั้งคณะธรรมยุตและคณะสงฆ์มหานิกาย ร่วมด้วยช่วยกันเช่นกัน

พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นความสามัคคีธรรมของชาวพุทธในอินโดนีเซีย ที่สมาคมพุทธมหายาน เถรวาท และมหายาน ทั้งธรรมยุต และมหานิกาย ได้มาร่วมกันจัดงานฉลองวิสาขบูชา ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของอินโดนีเซียและของชาวพุทธ ซึ่งมีการปิดเมืองกว่า 4 กิโลเมตร เดินขบวนพาเหรดและอัญเชิญพระพุทธรูป ไฟและน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเมืองต่างๆ ของอินโดนีเซีย แสดงถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของชาวพุทธในดินแดนนี้ ซึ่งน่าชื่นชมอนุโมทนาที่ชาวพุทธทั่วโลกควรได้ร่วมมือกันทำงานเช่นนี้ เพื่อสันติสุขและสันติภาพโลกจากพุทธธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมี สมาคมชาวพุทธวาลูบี้ (WALUBI) ร่วมกับองค์กรพุทธนานาชาติ 15 องค์กร รวมทั้ง มูลนิธิธรรมกาย โดยมีคณะสงฆ์นานาชาติร่วมเจริญพุทธมนต์ นั่งสมาธิ กว่า 300 รูป และจุดประทีปกว่า 1,000 ดวง และได้รับเกียรติจาก Mr.Bapak H. Yaqut Cholil Qoumas รัฐมนตรีกระทรวงศาสนาอินโดนีเซีย มีผู้แทนของประธานาธิบดี  โจโก วิโดโด เป็นประธาน สมกับที่องค์กรสหประชาชาติ (UN) ยกย่องให้เป็น วันสำคัญสากลโลก International day of Vesak

สำหรับบรรยากาศวันแรกของการเปิดงานและมีการเดินริ้วบุปผชาติและการแสดงความยาวประมาณ  4 กิโลเมตรมีคณะสงฆ์ทั้งมหายาน วัชรยาณ และเถรวาท รวมทั้งชาวพุทธตัวแทนสมาคมและจากประเทศต่าง ๆ  ร่วมเดินขบวนเป็นไปด้วยความสวยงาม สองข้างทางมีคนมุสลิมประจำถิ่นรอต้อนรับและชมแน่นถนัด รวมทั้งบางช่วงมีคนท้องถิ่นแต่งกายประจำถิ่นรอต้อนรับคณะสงฆ์และชาวพุทธที่มาร่วมงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

สำหรับวันที่สอง การจัดงานแบ่งออกเป็น  2 โซนหลัก โซนแรกเป็นเวทีใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนาประเทศอินโดนีเซีย เปิดงาน และมีคณะสงฆ์มาร่วมงานทั้ง มหายาน เถรวาท และวัชรญาณ มีการแสดงละครเวที เล่าเรื่อง ตอนเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ ตอนพบเทวทูตทั้ง 4 ตอนออกบวช ตรัสรู้และปรินิพพาน มีตัวละครนับร้อยคน มีเสียงบรรยาย ตัวละครนำ คนเล่าเรื่อง ทำได้ดีมาก แสงสีเสียงฉาก “ลงตัว” มีการร้องเพลงบรรเลง เกี่ยวกับวันวิสาขบูชา ท่ามกลางคณะสงฆ์ ตัวแทนรัฐบาล และข้าราชการท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่

ส่วนโซน 2 จัดโดยมูลนิธิวัดพระธรรมกายร่วมกับคณะสงฆ์ไทยประจำอินโดนีเซีย มีการเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ จุดเทียน ปล่อยโคม ถวายเป็นพุทธบูชา การนั่งสมาธิ ปล่อยโคม ต้องจองคิว และซื้อตั๋วเข้ามาคนเยอะรอบหนึ่งประมาณ 1,500 ขึ้นไป จนต้องแบ่งออกเป็น 2 ช่วง เวลา 19.00 น และ 22.00 น. งานดี ๆ ซึ่งภายในกิจกรรมมีทั้งคนมุสลิม ชาวพุทธ และนักท่องเที่ยวมาร่วมนั่งสมาธิและสวดมนต์แน่นทั้งสองรอบ

พระครูธีรญาณวิเทศ (ประดิษฐ์ อริญฺชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย  เปิดเผยว่า เป็นโอกาสดีที่ทางวัดพระธรรมกายประเทศไทย และศูนย์สมาธิในประเทศอินโดนีเซีย ได้ร่วมจัดงานวิสาขบูชาในประเทศอินโดนีเชียซึ่งแสดงถึงการเปิดโอกาสและเสรีภาพในการนับถือศาสนาในประเทศนี้ และให้ความสำคัญโดยกำหนดให้เป็นวันหยุดแห่งชาติด้วย และให้ชาวต่างประเทศได้รู้จักอินโดนีเซียผ่านมหาเจดีย์บรมพุทโธและงานวิสาขบูชาในงานได้ให้ชาวพุทธทุกนิกายและทุกสมาคม ได้อัญเชิญ ไฟและน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเมืองสำคัญต่าง ๆ มาร่วมพิธี ปีนี้ตรงกับวันที่ 16 พ.ค. 2565  ทีมงานวัดพระธรรมกาย มาสอนสมาธิในอินโดนีเซียกว่า 15 ปีแล้ว และช่วงประมาณ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ได้มาร่วมกิจกรรมวิสาขบูชา ณ มหาเจดีย์บุโรพุทโธ และได้นำการจุดโคมลานและโคมลอยฟ้า มาเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นกุศโลบายในสอนสมาธิโดยก่อนจุดไฟภายนอก ให้จุดความสว่างภายใน ด้วยการเจริญสมาธิภาวนา ซึ่งถือเป็นรายการหลักหนึ่งของงาน โดยท่านประธานาธิบดี ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมจุดโคมประทีปนี้ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้มาร่วมงานจะได้สัมผัสถึงมิตรภาพของชาวอินโดนีเซีย ซึ่งแม้ต่างศาสนากัน แต่ให้การต้อนรับอย่างชื่นชม รวมทั้ง บางท่านมาจากจากาตาร์เดินมากว่า 5 ชั่วโมง และมีอาสาสมัครชาวท้องถิ่นอินโดนีเซียหลายร้อยคน ที่มาช่วยงาน ซึ่งถือว่ามาร่วมกันทำความดี ซึ่งเป็นความดีสากลที่ทุกคนสามารถทำได้  ซึ่งในประเทศอินโดนีเซีย มีประชาชนจำนวนมากทั้งคนมุสลิม ฮินดูและพุทธศาสนิกชน เชื่อตำนานเรื่องเล่าขานที่ว่า

 “ในช่วงที่อาณาจักรมัชปาหิตปกครองประมาณพุทธศักราช 1836  –  2070  นั้นพุทธศาสนาตกต่ำลงอย่างมาก มีการทำลายพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และชาวพุทธ ปัจจุบันมีการอ้างทำนายของ “ปุชังคะ” ผู้เป็นตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายพระพุทธศาสนาของพระราชสำนัก ซึ่งมีอยู่ 2 ท่าน คือ ท่านสัปโดปาลอน และนายยะเคงคอง ในตอนนั้นไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับนับถือศาสนาอิสลาม ได้กราบทูลว่า “อีก 500 ปี พระพุทธศาสนาจะกลับมา” จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จวบจนถึงกึ่งพุทธกาลเศษ แสงเรืองรองแห่งพระพุทธศาสนาก็เริ่มปรากฏ จนพุทธศาสนาในอินโดนีเซียมีแสงเรืองรองมากตอนนี้ แม้แต่การจัดงานครั้งนี้วัดธรรมกายก็ไปเชิญชวนกลุ่มชาวพุทธที่เขาบอกว่าบรรพบุรุษเขาคือคนสร้างพระเจดีย์บุโรพุทโธ ซึ่งตอนนี้ไปอยู่ตามภูเขามาร่วมงานด้วยเช่นกัน..”

ในขณะที่พระภิกษุธรรมยุตินิกายรูปหนึ่ง ที่มาจำพรรษาและเผยแผ่พุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเซียมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว บอกกับว่าทีมงาน “Thebuddh” ว่า ตนเองมาจากจังหวัดสุรินทร์ คณะสงฆ์ธรรมยุตที่นี่ส่วนใหญ่มาจากสายวัดบวรนิเวศ เนื่องจากเดิมมีคนอินโดนีเซียขอพระธรรมทูตมาเผยแผ่พุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเซีย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวรเมื่อปี พ.ศ. 2511 ในปีต่อมาพระองค์ส่งพระธรรมทูตมา  4 รูป ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้มีคณะสงฆ์ธรรมยุตที่นี้มีประมาณ 100 วัดทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียน

“พระสงฆ์เรา หากจะมาอยู่ประเทศอินโดนีเซีย ต้องให้พุทธสมาคมที่นี่รับรองเช่น สมาคม warubi ที่เป็นคนจัดงานในครั้งนี้ อยู่ดี ๆ จะมาเองไม่ได้ คนมุสลิมที่นี่นิสัยน่ารัก เป็นมิตรกับชาวพุทธ  เข้าวัด ไหว้พระ  และชอบนั่งสมาธิ ปฎิบัติกรรมฐาน ”

การจัดงานกิจกรรมวิสาขบูชาโลกในประเทศอินโดนีเซียครั้งนี้ มี “พระญาณวชิรวงศ์” (มหาแจ็ค) เลขานุการประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) ร่วมเดินทางมาด้วย เนื่องจากหลังจากจบงานวิสาขบูชาโลกครั้งนี้ คณะสงฆ์จากประเทศไทยทั้งคณะธรรมยุติกนิกาย และมหานิกาย จะร่วมกับประชุมหารือเพื่อจัดตั้ง “สมัชชาสงฆ์ประเทศอินโดนีเซีย” เป็นลำดับสืบต่อไป

Leave a Reply