“งานรับปริญญา มจร” ปีนี้คึกคัก “สมเด็จสังฆราช” เสด็จ “คนดังพรึบ” ประมุขสงฆ์หลายประเทศเข้าร่วม หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย??

วันที่ 27 พ.ย 65   ระหว่างวันที่ 10-11 ธันวาคมที่จะถึงนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) มีพิธีประสาทปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต มหาบัณฑิต และพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต รวมทั้งเข็มเกียรติคุณและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ณ อาคาร มวก. 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2565 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จมาเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตร ให้กับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท -เอก รวมทั้งมอบเข็มเกียรติคุณและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

ส่วนวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 ทรงมอบหมายให้ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” กรรมการมหาเถรสมาคม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาคมปฎิบัติหน้าที่แทนประทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีนิสิตที่สำเร็จการศึกษามาแล้วจำนวน  67 รุ่น แยกเป็นระดับปริญญาตรี 63,484 รูป/คน ปริญญาโท 10,154 รูป/คนและปริญญาเอก 2,537 รูป/คน รวมทั้งสิ้น 76,175 รูป /คน

เปิดการเรียนการสอนไปแล้วทั่วประเทศและทั่วโลก โดยในต่างประเทศมีสถาบันสมทบ 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศฮังการี สิงคโปร์ ศรีลังกา เกาหลีใต้ และใต้หวัน

ส่วนในประเทศไทยมีวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ หน่วยวิทยบริการและโครงการขยายห้องเรียน ครอบคลุมทุกภูมิภาคใน 45 จังหวัดทั่วประเทศ เปิดการเรียนการสอนมากถึง 227 หลักสูตร เพื่อให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป มีนิสิตทั้งสิ้นประมาณ 20,000 รูป/คน มีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่มากกว่า 3,000 รูป/คน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ผลิตบุคลากรไม่เฉพาะเพื่อสนองงานคณะสงฆ์เท่านั้น ศิษย์เก่าจากสถาบันแห่งนี้กระจัดกระจายในทุกสาขาอาชีพ

พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย เมื่อต้นปี 2565 ได้พิจารณามอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์และเข้มเกียรติคุณโดยพิจารณาจากบุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งคณะสงฆ์และฆราวาส เน้นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ซึ่งปีนี้คณะกรรมการมีมติมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 64 รูป/คน ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 2 รูป/คน และเข็มเกียรติคุณอีก 56 คน

“สำหรับพระสงฆ์มีทั้งต่างประเทศ เช่น สังฆราชประเทศเมียนมา, ประเทศลาว ส่วนในประเทศ อาทิ พระเทพโสภณ เจ้าคณะภาค 8 วัดราชบูรณะ กรุงเทพมหานคร พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระเทพวัชรเมธี อธิการมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร) พระราชปัญญาเมธี (สมชัย กุสลจิตฺโต) อดีตรองอธิการบดี มจร พระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงพ่อพัฒน์) พระกิตติโสภณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดนาคปรก กรุงเทพมหานคร พระครูปลัดจริยวัฒน์ (มหาธรรมทส ขันติพโล) เจ้าอาวาสวัดตะโก (วัดหลวงพ่อรวย ) จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ในส่วนของฆราวาส อาทิ คุณชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ปลัดเก่ง คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหารไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ,คุณวิรัช ชินวินิจกุล อดีตรองประธานศาลฏีกา ผู้ร่วมบุกเบิกหลักสูตรสาขาสันติศึกษากับ มจร มาตั้งแต่ต้น,คุณพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย -จีน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น..”

พร้อมทั้งกล่าวต่ออีกว่า สำหรับปีนี้จะมีประมุขสงฆ์ นักวิชาการ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาในต่างประเทศ พร้อมทั้งผู้ติดตามมาร่วมเป็นจำนวนมาก เนื่อง 2 -3 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ทางเราไม่ได้นิมนต์เชิญมาร่วมรับ แต่ปีนี้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว จึงนิมนต์เชิญท่านเหล่านั้นเดินทางมารับปีนี้ สำหรับการดูแลมอบให้ฝ่ายต่างประเทศเป็นผู้ดูแล ทั้งการต้อนรับและการจัดหาที่พัก ซึ่งตรงนี้ทาง มจร เราก็มีระบบป้องกันและการดูแลทุกอย่างการ์ดไม่ให้ตก

Leave a Reply