ปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยนำคณะผู้บริหารระดับสูง และประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันปีใหม่ 2566 น้อมถวายเป็นพระราชกุศลและความเป็นสิริมงคลต้อนรับศักราชใหม่
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 06:30 น. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2566 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ และเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายปรีชา เดชพันธุ์ นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิต นายพิเชฐ ปาณะพงศ์ นายสมภพ สมิตะสิริ นายปรีชา ทองคำ นายพิริยะ ฉันทะดิลก นายสุภกิณห์ แวงชิน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การตลาด นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นางศลิษา ภิรมย์รัตน์ นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง บริเวณโดยรอบพระอุโบสถ โดยได้รับเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นำคณะสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม รับบิณฑบาต
จากนั้น ในเวลา 07.20 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความจงรักภักดี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ 1 มกราคม 2566 วันขึ้นปีใหม่ 2566 คณะสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จำนวน 20 รูป ได้เมตตาเดินบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้ง บริเวณหน้าพระอุโบสถ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่เป็นมงคลยิ่งที่ชาวมหาดไทยได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนพุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในการทำบุญสร้างกุศล ทั้งกายและใจ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของพุทธศักราชใหม่ ซึ่งก็ได้มีพี่น้องพุทธศาสนิกชนจำนวนมากตั้งใจใช้โอกาสนี้ในการร่วมกันตั้งจิตภาวนา ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและถวายเป็นพระกุศลถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรง ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญ ร่มเกล้าปวงพสกนิกรชาวไทย ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานพระรูป พร้อมลายพระหัตถ์เชิญพระพุทธภาษิต และพระคติธรรม ประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ว่า “ธมฺมกาโม ภวํ โหติ ผู้ชอบธรรม เป็นผู้เจริญ” พร้อมด้วยข้อความ “เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ขอท่านจงมั่นคงในความชอบธรรม เพื่อความเจริญทั้งความสุขของตนและส่วนรวมเทอญ.” ซึ่งนับเป็นสิริมงคลแก่พุทธศาสนิกชน ที่จะได้น้อมนำพรปีใหม่ประทานอันประเสริฐนี้ ไปใช้ในการปฏิบัติบูชาเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม และเกิดประโยชน์กับชีวิต อันจะนำมาซึ่งความสุขอย่างยั่งยืนทั้งต่อตนเองและประเทศชาติบ้านเมืองของพวกเราทุกคน
“นอกจากนี้ ในเช้าวันนี้ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอทั่วประเทศ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านนายอำเภอ นำพี่น้องประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร-อาหารแห้ง เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566 อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเสริมสร้างสรรพสิริมงคลต่อตนเอง และสร้างความรัก ความสามัคคี ในหมู่มวลพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน อันจะทำให้เกิดสังคมแห่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สังคมแห่งความเกื้อการุญ สังคมแห่งความเมตตากรุณา เป็นอาทิ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นพลังสำคัญที่จะธำรงไว้ซึ่งสังคมไทยที่เข้มแข็ง มีน้ำใจไมตรี เอื้ออารี และเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศด้วยพลังความรู้รักสามัคคีของพวกเราคนไทยทุกคนอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
Leave a Reply