ปลัดมท.พร้อมนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมกับชาวจังหวัดตราด ทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างอุโบสถวัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) รวมยอดเงินกว่า 2.4 ล้านบาท

วันนี้ 14 ต.ค. 66 ที่วัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมบททุนสร้างอุโบสถวัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) โดยได้รับเมตตาจาก พระบุรเขตธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดตราด เจ้าอาวาสวัดบางปรือ เป็นประธานประธานฝ่ายสงฆ์ มีพระครูมินินท์จริยานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอเกาะช้าง ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดวัชคามคชทวีป พระครูโฆษิตวิริยคุณ เจ้าคณะอำเภอเมืองตราด พระครูวิสุทธิ์บวรกิจ เจ้าคณะอำเภอเขาสมิง พระครูพิทักษ์บุรเขต เจ้าคณะอำเภอคลองใหญ่ พระครูกิตติญาณวิจักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ่อไร่ พระครูสุเมธจริยาลังการ เจ้าคณะตำบลเกาะช้าง พร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดตราด ร่วมประกอบพิธี โดยมี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดตราด เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำผู้ร่วมพิธีกล่าวคำถวายผ้าป่า ประธานสงฆ์พิจารณาผ้าป่า ผู้ร่วมพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา กรวดน้ำ รับพร ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบลาพระรัตนตรัย แล้วกล่าวพบปะพี่น้องพุทธศาสนิกชนผู้มาร่วมอนุโมทนา โดยมียอดสมทบถวายผ้าป่าในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 2,425,488 บาท

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วัดวัชคามคชทวีป ได้รับพระราชทานเขตวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2446 เดิมมีชื่อว่า วัดสลักคอก ตั้งอยู่ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด มีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ ลักษณะพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่ในบ้านสลักคอก ทางด้านตะวันออกของอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นวัดและหมู่บ้านที่มีพื้นที่ราบเพียงเล็กน้อย สภาพทั่วไปของวัดเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบ บนภูเขาเป็นป่าไม้ธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ โดยที่ดินของวัดด้านทิศตะวันออกจรดกับลำธาร ด้านทิศตะวันตกจรดพื้นที่ของโรงเรียนวัดวัชคามคชทวีป ทางด้านทิศใต้มีพื้นที่เป็นเนินสูงและภูเขาที่มีป่าไม้ธรรมชาติ ส่วนด้านหน้าของวัดเป็นทิศเหนือติดกับป่าชายเลน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดตราด

“วัดวัชคามคชทวีป เป็นวัดเก่าแก่มากกว่า 100 ปี โดยก่อนที่จะมาตั้งเป็นวัด ณ สถานที่ปัจจุบันนี้ สันนิษฐานว่าเคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน ซึ่งมีหลักฐานจากการสืบหาได้ว่า สำนักสงฆ์เดิมเคยตั้งอยู่ที่บ้านอ่าวโกงกาง ห่างจากที่ตั้งวัดในปัจจุบันประมาณ 3 กิโลเมตร ในราวปลายสมัยรัชกาลที่ 4 และต่อมา ภายใต้การนำของ “หลวงพ่ออุ้ย” ท่านได้ร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้านสลักคอกนี้สร้างวัดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้สร้างพระอุโบสถ โดยเมื่อมีสังฆกรรมเกิดขึ้น เหล่าพระสงฆ์จึงได้กำหนดเขต อพัทธสีมา ประเภท “อุทกุกเขปสีมา” ขึ้น ด้วยการสร้างเป็นแพหรือร้านอยู่กลางน้ำให้ห่างฝั่งประมาณชั่ววักน้ำสาดแห่งคนมีกำลังปานกลาง คือ ประมาณ 3 วา เพื่อใช้ทำอุโบสถสังฆกรรมเรื่อยมา กระทั่งปี 2426-2427 พระอธิการอิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้นได้ร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้าน จะสร้างพระอุโบสถขึ้น แต่ยังไม่ได้สร้างขึ้นในทันที เพราะชาวบ้านระแวกนั้นยังมีฐานะยากจน กระทั่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินประพาสจังหวัดตราดทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งเวสาตรี ได้มาจอดเรือพระที่นั่งที่หน้าคลองมะยม ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการกิ่งอำเภอเกาะช้าง และได้เสด็จโดยเรือกระเชียง ลากจูงด้วยเรือไฟมาที่หมู่บ้านสลักคอก เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร ซึ่งราษฎรผู้เข้าเฝ้ารับเสด็จฯ ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาให้พระองค์ท่านทรงเหยียบที่สร้างพระอุโบสถให้ พระองค์จึงทรงเหยียบที่สร้างพระอุโบสถและทรงรับว่าจะสร้างพระอุโบสถให้ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า “วัดวัชคามคชทวีป” เมื่อปี 2427 และต่อมา ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างอุโบสถจนแล้วเสร็จในวันที่ 12 เมษายน 2442 โดยมีพระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันดูแลบำรุงวัดเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 16 ตุลาคม 2515 พระราชเขมากร เจ้าคณะจังหวัดตราดในสมัยนั้น ได้แต่งตั้งให้ พระครูนาคทีปาวสัย เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้นำชาวบ้านร่วมกันทำนุบำรุงพัฒนาวัด จนกระทั่งท่านได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2537″ นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันอุโบสถหลังดังกล่าวชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่เหลือเค้าโครงสร้างเดิมแล้ว การทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ไม่สะดวก และอาจเกิดอันตรายได้ ตนพร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้ร่วมกับจังหวัดตราด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด คนที่ 48 และภาคีเครือข่าย จึงจัดให้มีพิธีทอดผ้าป่าเพื่อสร้างอุโบสถวัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) ในครั้งนี้ โดยจะทำการอนุรักษ์ไว้ ด้วยการสร้างอุโบสถขึ้นใหม่ในสถานที่เดิม และยึดรูปแบบโบสถ์ที่สร้างขึ้นในครั้งแรก ซึ่งจะได้ร่วมกับกรมศิลปากรในการออกแบบ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถานต่อไป

“ขออนุโมทนาพี่น้องประชาชนพุทธศาสนิกชน ตลอดจนภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มีส่วนร่วมในการทอดผ้าป่าสามัคคี จนมียอดปัจจัยสมทบรวมกันทั้งสิ้น 2,425,488 บาท ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการร่วมกันแสดงออกซึ่งการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ คือความมุ่งมั่นตั้งใจของพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ที่ต่างพร้อมใจกันสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรงแข็งขัน เพื่อที่จะทำให้วัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) เป็นศาสนสถานอยู่คู่กับอำเภอเกาะช้าง แห่งนี้ และขอให้จังหวัดตราด ได้นำแนวทางตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข อันเป็นการปฏิบัติบูชาที่ยิ่งใหญ่ดำเนินการตามแนวทางสาธารณสงเคราะห์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน 4 ประการ คือ 1) สงเคราะห์ 2) เกื้อกูล 3) พัฒนา และ 4) บูรณาการ หนุนเสริมกลไกการสร้างสายสัมพันธ์ความร่วมแรงร่วมใจกันของวัด ชุมชน และภาคีเครือข่ายในท้องถิ่น ด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน คือ ศรัทธาปสาทะในบวรพระพุทธศาสนา อำนวยสันติรสแก่ผู้เข้ามาพึ่งพาบำบัดทุกข์ และเสริมสร้างความสุขทั้งแก่กายและใจให้สมดังพุทธศาสนีที่ว่า “ภูตํ เสสํ ทยิตพฺพํ” แปลความว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ควรเกื้อกูลกัน” เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันดูแลรักษา ให้วัดแห่งนี้เป็นรมณียสถาน เป็นสถานที่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

Leave a Reply