ช่วงเดือนสองเดือนมานี้มีภาพ Artificial Intelligence หรือ AI หรือภาษาไทยเรียกชื่อว่า “ปัญญาประดิษฐ์” เผยแพร่ออกมาสู่สายตาสาธารณชนเป็นอย่างมาก ครั้งแรกชาวพุทธและประชาชนตื่นเต้นมีภาพสามเณรน่ารัก ๆ ออกมา ต่อมาก็มีภาพ “พระภิกษุแข่งรถ -เล่นดนตรี” อันนี้นับว่า “หนักแล้ว”  วันสองวันมานี้เจอภาพปัญญาประดิษฐ์หรือ AI

พระภิกษุเที่ยวผับเที่ยวบาร์ เสมือน “ผู้วาดภาพ” จงใจให้เข้ากับ..เทศกาลงานกฐิน

หมายความว่า..เมื่อเสร็จสิ้นงานกฐินแล้ว..ฉลองได้ประมาณนั้น

มีประชาชนจำนวนมาก..ที่มี “อคติ” กับพฤติกรรมของคณะสงฆ์ปัจจุบัน วิพากษ์วิจารณ์..ทำนอง..ว่า ภาพเหล่านี้..สะท้อนมุมมืดของคณะสงฆ์.

ไม่รู้ว่า..เอาปัญญาสมองส่วนไหนคิด..ในโลกความจริง ไม่มีพระภิกษุแข่งรถ ไม่มีพระภิกษุขึ้นเวทีเล่นกีตาร์ หรือแม้กระทั้ง..เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพระภิกษุ “พิเรน” ควงสาวเชียร์เบียร์ หรือสาวร้องคาราโอเกะ แบบนั้น

ประมาณว่า…คนทำภาพ AI หาก “ไม่คิดสุดโต่ง” คงจินตนาการไม่ได้ขนาดนี้

เสียดาย!! ช่วงหลายปีมานี้ “องค์กร” คณะสงฆ์ก็อ่อนแรง ตั้งแต่พระผู้ใหญ่หัวก้าวหน้าถูกคดี “เงินทอนวัด”  พระผู้ใหญ่ที่มีความคิดจะออกมาปกป้องคณะสงฆ์ ออกมาปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา..ก็ไร้แกนนำ

ต่างคนต่างเก็บตัวเงียบ..รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

ในขณะที่ “องค์กรพุทธ” อย่างสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา หรือ สนพ.  หลัง “วัดสระเกศ” สิ้นอำนาจ..สนพ..ก็แตกสลาย

มองไปที่ “ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย”  ต่างคนต่างก็มี “ตำแหน่ง” ไม่กล้าที่จะขยับอะไร..เพราะเงินเดือนรัฐและตำแหน่งค้ำคออยู่..ซ้ำยุคนี้..ดีไม่ดี “ซี้ปึ๊ก” กับ รัฐบาลด้วย ยิ่งไม่เคลื่อนไหวอะไร??

ยุคสายวัดสระเกศเฟื่องฟู ยุคสาย “มจร” ตื่นตัว ไม่ถูกเบรก ทำนอง “พระคุณเจ้าไม่ต้อง โยมจัดการเอง”  ปรากฏการณ์ภาพแบบนี้ อาจเห็นสายมวลชน  สนพ. หรือมวลชน ศูนย์พิทักษ์ฯ บุกทำเนียบหรือสำนักงานพุทธ ฯ กันแล้ว!!

ส่องไปองค์กร “เปรียญธรรม” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค หรือ เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยก็กลายเป็น “บ้านพักคนชรา” อุทิศตนเพื่อคณะสงฆ์มาทั้งชีวิต..อ่อนแรง

มองไปที่หน่วยงานภาครัฐ. ตั้งแต่…รัฐบาลจนถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ..

กระแสแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ได้อีกเดือน..และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเมื่อพรรคการเมืองที่บริหารจัดการแบบพรรคเพื่อไทยเข้ามา..มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีทุกปี..เนื่องจากพรรคการเมืองมีบุคลากรจำนวนมาก..ที่พร้อมจะเข้ามาสับเปลี่ยนหมุนเวียน..ทำงาน

ในขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ..ยัง “ไร้หัว”  ตัวตนที่ชัดเจน

“ชายยืนหนึ่ง” ยังแต่งตั้งไม่ได้..คงลากยาวอีกนาน

ปรากฎการณ์..ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ปรากฎโหมออกมาหนักตอนนี้หรือแม้กระทั้งภาพลักษณ์อื่น ๆ ที่กระทบต่อพระพุทธศาสนาโดยรวม

จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท 4 ในการที่จะต้องร่วมกัน…ปกป้องและคุ้มครอง

มิใช่เพื่อคณะสงฆ์..แต่เพื่อพระพุทธศาสนาอันมีหลักธรรมที่เป็น..ที่พึ่งแห่งวิถีชีวิตได้

อย่างภาพวาด AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่ออกมาเผยแพร่ตอนนี้..ขอให้รู้ว่ามันคือ “ภาพหลอก”

และมิใช่ภาพที่เสนอ “มุมมืด” ของสังคมสงฆ์อย่างที่ “บางคน” เข้าใจหรือพูดต่อ

เรื่องพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

พวกเรา..หวังพึ่งรัฐบาล หน่วยงานรัฐ หรือ คณะสงฆ์อย่างเดียวไม่ได้

เรื่องแบบนี้ “ชาวพุทธ” ปล่อยวาง ให้เป็นไปตาม “กรรม” ต่างคนต่างอยู่ดีไหม

หรือ ยุคนี้มันต้องพึ่ง “หัวพญาครุฑ” พึ่งกฎหมายยังเดียว.. ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ชาวพุทธ” ไม่ถนัด!!