“ณพลเดช” มองจิ๊บๆ! เจ้าคณะตบท้ายทอย-เท้ายันสามเณรนั่งหลับ ต่างประเทศโหดกว่านี้เยอะ ชี้คนแชร์ภาพด่าส่อผิดพรบ.คอมฯ

เมื่อวันที่  11  มกราคม 2567  นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า เห็นข่าวนี้แล้วไม่สบายใจ กรณีที่เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น แจงดราม่าตบท้ายทอย-เท้ายันสามเณรนั่งหลับขณะทำวัตรเย็นกลางโบสถ์ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แค่อบรมสั่งสอน

และมีการแชร์ภาพภายในวัด ที่เจ้าอาวาสเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัด ที่ดูแลพระเณรในวัดและใช้การอบรมสั่งสอนแบบโบราณ ที่สร้างให้คนดีมามากต่อมาก สุภาษิตโบราณบอกว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” แต่ถ้าลูกเป็นกลุ่มที่พ่อแม่ทิ้งหรือพ่อแม่ท่านเลี้ยงไม่ไหว เอาไปฝากวัดให้เลี้ยง เด็กก็เป็นกลุ่มเด็กที่ขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก หากเด็กเหล่านี้ดูแลและไม่เชื่อฟังควรจะทำอย่างไร…

ตัวผมเองจำได้ว่าตอนเด็กก็เคยถูกครูใช้ไม้เรียวตี   พระพุทธเจ้าตรัสบัว 3 เหล่า ถ้าเปรียบเทียบไปแล้วเด็กไทยอยู่ในกลุ่มที่พ่อแม่มีความพร้อมก็คงเสมือนกลุ่มบัวพ้นน้ำ แต่ถ้ากลุ่มที่พอจะได้โอกาสที่ผลุดออกมาจากน้ำ ถ้าไม่มีกำลังเร่งเพื่อพัฒนาให้เด็กพ้นน้ำได้ กลุ่มนี้ก็คงไม่พ้นกลุ่มที่เป็นปัญหาในสังคม ที่เราเห็นเป็นเด็กแว้น สก๊อย ติดยาเสพติด มีบุตรก่อนวัยอันควร เข้าคุกวนเข้าวนออก ดังที่เป็นปัญหาที่เห็นในปัจจุบัน

ส่วนตัวผมรู้จัก พระเทพวิสุทธิคุณ  เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดหนองกุง เป็นอย่างดีครับ ท่านเป็นพระที่เป็นพระนักพัฒนามีเด็กที่ไม่มีโอกาส แล้วไปบวชเณรที่วัดท่านจนเป็นวัดต้นแบบ มีเด็กที่โตเป็นผู้ใหญ่ มีอาชีพการงานที่ดีจำนวนมาก และผมก็ได้สัมผัสกับเด็กที่กลายเป็นผู้ใหญ่กลุ่มนี้หลายคน ซึ่งล้วนเป็นคนดี มีหน้าท่การงานดี การลงโทษในรูปแบบวัด ที่มีหลวงตาอบรม ผมไปดูงานที่ไต้หวัน ญี่ปุ่น แต่ละที่โหดกว่าเราอีกครับ ในหนังการ์ตูนเรื่อง อิคิวซัง ที่เราดูกันตอนเด็กๆ ที่หลวงตาอบรมกันแบบโหดๆ เป็นเรื่องจริง แต่ทั้งหมดทั้งมวลอยู่บนพื้นฐานความเมตตาของหลวงตา (ไม่งั้นจะคุมเด็กได้อย่างไร)

ภายหลังเราไปเอาเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของต่างชาติ ที่เป็นคนละเรื่องกับการอบรมเด็กโดยเฉพาะพระเณร ให้เด็กเป็นคนดี กลายเป็นทำให้การอบรมเด็กใจปัจจุบันยากขึ้น ทั้งนี้หากทราบงบประมาณที่จะดูแลเด็ก วัดต้องจัดหาเงินมาเติมที่ได้รับจากรัฐและเงินบริจาคอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นความสามารถเข้าเจ้าอาวาสเจ้าสำนักล้วนๆ แบบกำลังที่จะผลิตคนที่เรียกว่าวัด ที่ถือว่าเป็นกำลังสุดท้ายในการสร้างประเทศล้มลง ประเทศไทยอาจต้องเตรียมงบประมาณที่จะต้องจ่ายในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เพื่อให้สังคมพยุงตัวเอง คำว่าให้คนดีปกครองคนไม่ดีคงยากที่จะเกิดขึ้น จากภาพที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการสร้างคนในกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะ พรบ. พระปริยัติติธรรม ที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ อย่างไรก็ตาม ผมจะต่อกรรมาธิการเพื่อเสนอข้อกฎหมายที่ใช้อบรมเด็กสำหรับคนไทย เพื่อให้เป็นมาตรฐานในการอบรม และเปิดช่องทางออกสำหรับกฎหมายระหว่างประเทศต่อไปครับ

อย่างไรก็ตาม คนที่ถ่ายรูปและแชร์ภาพดังกล่าวจากในวัด อาจมีความผิดตาม พรบ.คอมฯ การเขียนข้อความด่า ประจาน ทำให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยข้อมูลที่โพสต์นั้นปรากฏชื่อ รูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวที่ทำให้รู้ว่าคนที่ถูกพาดพิงนั้นเป็นใคร มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 328 มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ครับ

Leave a Reply