วันที่ 27 เมษายน 2568 เฟชบุ๊ค ” อำพล บุดดาสาร” ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คส่วนตัวของ รองศาสตราจารย์ ดร.อำพล บุดดาสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชสมัย โดยมี “ฉากหลัง” เป็นองค์พระพุทธรูปว่า ภาพที่ปรากฏสะท้อนช่วงเวลาแห่งการพบกันระหว่าง “สองพุทธกษัตริย์” ในโลกยุคปัจจุบัน คือ

1. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน
2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร แห่งราชอาณาจักรไทย
ทั้งสองพระองค์นับเป็น “พุทธกษัตริย์” ที่ทรงยึดมั่นและทรงมีบทบาทในการธำรงและส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่าง “ธรรมจักรกับจักรพรรดิ” ในโลกยุคปัจจุบันได้อย่างเด่นชัด ดังนี้
1. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งประเทศภูฏาน
ทรงเป็นพุทธมามกะโดยกำเนิด และทรงสืบทอดอำนาจแห่งราชบัลลังก์ภายใต้หลักคำสอนของวัชรยานแบบธิเบต (Vajrayāna – Nyingma/Kagyu)
ทรงให้ความสำคัญกับศีลธรรมและธรรมาภิบาลแบบพุทธ โดยใช้แนวคิด “Gross National Happiness” หรือ “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” ซึ่งตั้งอยู่บนฐานของหลักธรรมในพุทธศาสนา
ทรงสนับสนุนพระสงฆ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการศึกษาพระไตรปิฎก การปฏิบัติธรรม และการปกครองคณะสงฆ์แบบอุปถัมภ์ตามขนบโบราณ
2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 แห่งประเทศไทย
ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก ตามราชประเพณีแห่งราชวงศ์จักรี นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงปัจจุบัน
ทรงสืบสานพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงอุปถัมภ์พุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งในประเทศและสากล
ทรงพระราชทานอุปถัมภ์การศึกษาพระพุทธศาสนา ผ่านการส่งเสริมสถาบันคณะสงฆ์ไทย วัดไทยในต่างประเทศ และพระนิสิตในมหาวิทยาลัยสงฆ์ เช่น มจร และ มมร
มีพระราชหัตถเลขาสนับสนุนการส่งเสริมพุทธธรรมเพื่อความเป็นปึกแผ่นของสังคมไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน


Leave a Reply