วันที่ 13 ก.พ. 67  ณ บ้านตอยาง ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ในฐานะประธานสังฆประชานุเคราะห์คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี เจ้าคณะอำเภอ พระสังฆาธิการ พร้อมด้วย นายธนณัฐ อาจิณกิจ นายอำเภอพัฒนานิคม  นางกฤษณา สิทธิราช วัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี  นายวีระ จำลอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ดร.พัลลภ ภัทรบดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องสาลิกา และประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันรื้อถอน ปรับพื้นที่ และตอกเสาเข็มมหามงคลเพื่อสร้างบ้านใหม่ให้กับโยมพ่อพระ “พระครูสิริพัฒนพิมล” หรือ พระมหาชินภัทร อภิวฒฺฑโน น.ธ.เอก,ป.ธ.5,พธ.บ. เลขานุการเจ้าคณะอำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี

พระเทพเสนาบดี  เปิดเผยว่า  วันนี้เป็นวันปฐมฤกษ์เอาฤกษ์เอาชัยทุบบ้านเก่า ทำบ้านใหม่ ตั้งชื่อว่า “บ้านพระทำ” เพราะพระจริง ๆ ตั้งแต่คิด หางบประมาณ และวันนี้มาร่วมกันทุบบ้านเก่า วัตถุประสงค์สำคัญก็เพื่อ หนึ่ง ถวายกำลังใจให้กับ พระมหาชินภัทร อภิวฒฺฑโน เลขานุการเจ้าคณะอำเภอพัฒนานิคม ที่รับใช้พระพุทธศาสนา และกิจการคณะสงฆ์มาหลายปี เป็นคนหนักเอาเบาสู้ ไม่เคยปฎิเสธ และสนองงานกิจการคณะสงฆ์ด้วยความเรียบร้อย สอง ก็เพื่อเทิดคุณคุณบิดาของพระ ที่ท่านผลิตลูกมาได้ดี บวชแล้วก็เป็นพระที่ดี เป็นคนดีของคณะสงฆ์ เมื่อลูกบวชสนองงานคณะสงฆ์ ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ก็ควรต้องดูแลท่าน

“คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรีสร้างบ้านให้บิดามารดาพระเพื่อเทิดพระคุณท่าน หลังนี้มิใช่หลังแรก เป็นหลังที่สองแล้ว เมื่อปีที่แล้วคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรีก็ไปสร้างบ้านให้กับแม่ของพระที่อำเภอลำสนธิแล้วจำนวน 1 หลัง และการสร้างบ้านพระทำนี้ มิใช่สร้างให้เฉพาะโยมบิดา มารดาพระยังเดียว แม้คณะสงฆ์โยมที่ลำบาก ยากไร้ เป็นคนพุทธ คนข้างวัดคอยดูแลพระสงฆ์ คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรีสร้างและมอบให้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 หลังคาเรือน เราทำมาหลายปี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นนโยบายของมหาเถรสมาคม และโดยเฉพาะ เจ้าคณะภาค 3 พระพรหมกวี ท่านกำชับตลอดว่า อยากเห็นคณะสงฆ์ในภาคของท่านสร้างบ้านให้คนยากคน คนยากไร้ ชาวพุทธใกล้วัดแบบนี้เยอะ ๆ สำหรับบ้านหลังนี้มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว คอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 3 เมตร ยาว 12 เมตร 2 ห้องนอน มีห้องรับแขก มีห้องครัว ห้องน้ำ พร้อม คาดว่าใช้งบประมาณ 6 -7 แสนบาท ตอนนี้คณะสงฆ์ในจังหวัดและญาติโยมบริจาคมาแล้วประมาณ 5 แสนบาท คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนก่อนเข้าหน้าฝนเสร็จเรียบร้อยได้เข้าอยู่แน่..”

ด้าน พระครูสิริพัฒนพิมล   กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่คณะสงฆ์ นำโดยพระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ท่านเมตตาต่ออาตมาและครอบครัว อาตมามีพี่น้อง 4  คนต่างคนต่างแยกย้ายกันอยู่ โยมพ่อตอนนี้อายุ 74 แล้ว อาศัยบ้านนี้อยู่คนเดียว พี่น้องนาน ๆกลับมากันสักครั้ง ส่วนตัวอาตมาก็มาดูแลเท่าที่เวลาจะมี

“ที่ผ่านมา เหตุผลสำคัญที่ไม่ได้สร้างบ้านให้โยมพ่อ นอกจากมีเงินไม่เพียงพอแล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งเนื่องจากโยมพ่อท่านมีอายุมากแล้ว คิดว่าหลังเก่าพออยู่ได้ ก็เลยไม่ได้ขวนขวายคิดสร้างให้ท่าน ผนวกกับเกรงใจชาวบ้านจะว่าเอาได้ มองพระในภาพลบก็เลยไม่ได้ วันนี้คณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก ดีใจและปลื้มใจอย่างมาก”

ขณะที่ ดร.พัลลภ ภัทรบดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องสาลิกา กล่าวว่า ตำบลช่องสาลิกามี 13 หมู่บ้าน มีประชากรกว่า 9,000 กว่าคน อันนี้ไม่รับรวมโรงงานที่อาจมีประชากรแฝงเข้ามาอีก ซึ่งคาดว่าน่าจะหมื่นขึ้น  ปกติทาง อบต.สำรวจประชาชนที่อยู่ในข่ายยากจนและตกเกณฑ์ทุกปี ซึ่ง ลุงเลื่อน วงศ์ตาฟู บิดาของท่านพระครู เลขาเจ้าคณะอำเภอ เท่าที่มีข้อมูลและสอบถามจากผู้ใหญ่บ้าน ท่านไม่ได้ตกเกณฑ์ ในเขตรับผิดชอบของ อบต.ช่องสาริกา ปีที่แล้วมีคนตกเกณฑ์คนเดียว เป็นชายพิการทางสายตา ซึ่งตอนนี้ทาง อบต.ก็ดูแลอยู่

“ตอนนี้ทุกโครงการของคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โครงการวัดประชารัฐสร้างสุข หรือแม้กระทั้งโครงการหน่วยอบรมประชาชน ทาง อบต.ก็เข้ามาร่วม เพราะถือว่าเป็นนโยบายที่ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ท่านได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมหรือ MOU ไว้กับคณะสงฆ์แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เราในฐานะหน่วยงานท้องถิ่นก็ทำงานได้คล่องขึ้น  แม้กระทั้งเรื่องปลูกผักกินเอง เรื่องถังขยะลดโลกร้อน ทาง อบต.ช่องสาริกาก็เต็มที่ เพราะถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยท่านใส่ใจและให้ความสำคัญ..”