วันเสาร์ที่ ๒๒  กันยายน ๒๕๖๗  เมื่อวันที่ ๒๐ ที่ผ่านมา  ณ วัดพุทธวิหาร มหานครอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ มีการจัดโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ รุ่นที่ ๓ พิธีเปิดโครงการได้รับความเมตตาจากพระราชวชิรศาสนวิเทศ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการและบรรยายพิเศษ มีนายอสิ ม้ามณีเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โดยมีพระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์อินเดียศึกษา ประธานศูนย์มหายานนศึกษา มจร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารวิทยาลัยพระธรรมทูตและกองวิเทศสัมพันธ์ เดินทางไปเป็นวิทยากรให้การอบรม และเป็นผู้แทน อ่านสาส์นของพระเดชพระคุณพระพรหมโมลี ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศในครั้งนี้ด้วย

พระราชวชิรศาสนวิเทศ กล่าวตอนหนึ่งว่า “…ขออนุโมทนาชื่นชมคณะทำงานทุกฝ่ายที่ได้ร่วมแรงร่วมใจจัดกิจกรรมในวันนี้โดยเฉพาะท่านพระครูปลัดสุวัฒนอาจารคุณ เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร คณะกรรมการบริหารวัด ท่านเจ้าคุณพระราชวิเทศปัญญาคุณ พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ และธรรมทูตคฤหัสถ์ทุกท่าน จากคำกล่าวรายงานของท่านผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต มจร โครงการเกิดขึ้นจากการที่ทุกฝ่ายต้องการจะยกย่องเชิดชูเกียรติของคฤหัสถ์ที่ได้ช่วยทำหน้าที่ส่งเสริมและสนุนสนุนสนองงานคณะสงฆ์ในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศ

จุดเริ่มต้นของความคิดนี้ เกิดจากการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการที่สวนหินนอร์เวย์ หลังการเสร็จสิ้นภารกิจโครงการอุปสมบทหมู่เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาในต่างแดน ต่างเห็นร่วทกันว่า งานแห่งผู้นำแห่งธรรมมิใช่เป็นเพียงหน้าที่ของพระสงฆ์เท่านั้น หากแต่เป็นบทบาทและหน้าที่ของอุบาสกอุนำยาสิกาด้วย จึงคิดว่าควรมีการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์เพื่อช่วยงานคณะสงฆ์ในส่วนนี้ และได้มีการจัดโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ รุ่นที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๗ – ๒๙ กันยายน ๒๕๖๒ ณ ศูนย์ปฏิบัติวิทยาลัยพระธรรมทูต วัดไทยนอร์เวย์ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ แต่มีสถานโควิด จึงไม่ได้จัดต่อเนื่อง และจัดอีกครั้งในปี ๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๒ – ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ศูนย์ปฏิบัติวิทยาลัยพระธรรมทูต วัดไทยนอร์เวย์ อย่างไรก็ตาม การจัดอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ ในครั้งนี้ก็เพื่อยกย่องคฤหัสถ์ทุกท่านให้ทุกท่านได้มีโอกาสในแลกเปลี่ยนข้อคิดความเห็นเพื่อมีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนกิจการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป พระราชวชิรศาสนวิเทศ กล่าวในตอนท้าย…“

พระครูปลัดสุวัฒนอาจารคุณ รองประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร อัมสเตอร์ดัม กล่าวปฏิสันถารต้อนรับตอนหนึ่งว่า “…นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่เราท่านมีโอกาสได้ร่วมกันในวันนี้ ณ วัดพุทธวิหาร อัมสเตอร์ดัม สถานที่ที่ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนไทยในเนเธอแลนด์ หรือในยุโรป แต่ยังเป็นใบไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มเย็นและเมตตาแก่ผู้คนที่เข้ามาเยือนในทุกๆ วัน

วัดพุทธวิหารนี้ สร้างขึ้นโดยทีมพระธรรมทูตและผู้ศรัทธาด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา และเป็นที่อบรมสั่งสอนผู้คนให้เข้าใจและเข้าถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง การจัดกิจกรรมอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสื่อสารและเผยแพร่พระพุทธศาสนาสู่สังคมโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ซึ่งพิสูจน์ว่าชุมชนชาวพุทธของเรา มีเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างการแนะนำทางธรรมอย่างถูกต้อง และส่งต่อคำสอนที่ถูกต้องให้กับผู้ที่สนใจในศาสนาพุทธ ในนามวัดพุทธวิหาร ขอถวายการต้อนรับ และยินดีต้อนรับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันสร้างสรรค์ความงดงามในธรรมนี้ด้วยความรักและเมตตา เป็นพลังในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้สังคมโลกได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป…”

นายอสิ ม้ามณี เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก กล่าวสุนทรพจน์และบรรยายพิเศษ หัวข้อ เรื่อง “บทบาทของภาครัฐกับการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ” ท่านอสิ กล่าวว่า “รัฐโดยกระทรวงต่างประเทศ มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนคนไทยในต่างประเทศ มีความยินดีในการสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ จากข้อมูลวัดในต่างประเทศ จำนวน ๙๐๐ กว่าวัด วัดโดยส่วนใหญ่สร้างจากพระสงฆ์และศรัทธาของคนไทยในต่างประเทศ มี ๓ วัด ที่สร้างโดยมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ (๑) วัดไทยพุทธคยา เป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศอินเดีย (๒) วัดไทยลุมพินี ตั้ง อยู่ในปริมณฑลสังเวชนียสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สวนลุมพินีวัน ราชอาณาจักรเนปาล (๓) วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน โดยความร่วมมือจากมหาเถรสมาคมและรัฐบาลไทย การพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ผ่านกิจกรรมทางศาสนา เช่น การจัดงานเทศกาลทางศาสนา การทำบุญในโอกาสต่าง ๆ โดยส่วนตัวเมื่อมีโอกาสก็จะเดินทางมาร่วมทุกครั้ง เว้นแต่ติดภารกิจก็มีผู้แทนมาร่วมกิจกรรมของทางวัดตลอด การส่งเสริมพระพุทธศาสนาในต่างประเทศไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มพูนความเข้าใจในศาสนา แต่ยังเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความคิดที่เป็นบวก ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่ความสงบสุขและความร่วมมือที่ยั่งยืน…“ท่านอสิกล่าวในตอนท้าย

พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ กล่าวตอนหนึ่งว่า “…ในนามพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดี มจร ขอกราบขอบพระคุณ พระพรหมโมลี ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ที่เมตตามอบโอวาท เพื่อนำมาอ่านในมหาสมาคมพิธีเปิดโครงการอบรมฯ ขอขอบพระคุณ พระราชวชิรศาสนวิเทศ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป พระครูปลัดสุวัฒนอาจารคุณ รองประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป พร้อมด้วย พระเถรานุเถระ พระธรรมทูตสายต่างประเทศในทวีปยุโรป ที่เมตตาและให้เกียรติ มจร ให้มีโอกาสได้ทำงานสนองกิจการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ด้วยความเคารพมา ณ โอกาสนี้ ฯ

การอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศก็เพื่อยกย่องเชิดชูธรรมทูตคฤหัสถ์ทุกท่าน ให้ทุกท่านมีเวทีในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อคิดความเห็นในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนกิจการงานพระศาสนา เสริมสร้างศักยภาพในการเป็นธรรมทูต ที่สำคัญสร้างเครือข่ายของคฤหัสถ์ในการสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาในต่างประเทศ การจัดอบรมครั้งนี้ ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ได้เข้ากราบถวายรายงานและขอรับคำปรึกษาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม และพระเดชพระคุณ พระพรหมโมลี กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตสายต่างประเทศ

การนี้ พระเดชพระคุณท่านได้มีเมตตามอบนโยบายและบัญชาให้วิทยาลัยพระธรรมทูต ได้ดำเนินการโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ รุ่นที่ ๓/๒๕๖๗ ภายใต้การอนุมัติและเห็นชอบจาก มจร และพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดี มจร ได้อนุมัติและเห็นชอบให้วิทยาลัยพระธรรมทูต และกองวิเทศสัมพันธ์ มจร รับดำเนินงานโครงการเพื่อสนองนโยบายและรับใช้คณะสงฆ์ตามพันธกิจนี้ และหลักสูตรที่ใช้ในการอบรม มีทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเน้นด้านวิชาการ ศาสนพิธี วิปัสสนากรรมฐาน และการปฏิบัติ ต้องกราบขอบคุณพระราชวชิรศาสนวิเทศ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในยุโรป ที่เมตตามาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ฯพณฯเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ให้เกียรติมาเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ มีคฤหัสถ์ภาคพื้นยุโรป เข้ารับการอบรมฯ รุ่นที่ ๓ จำนวน ๑๒๐ คน โดยกำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ กันยายน ๒๕๖๗

ในช่วงบ่ายจะมีการบรรยายพิเศษ การประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยได้รับเกียรติจากพระธรรมทูตสายต่างประเทศ และผู้บริหาร มจร ให้เกียรติเป็นวิทยากร อาทิ พระครูสาทรสันติวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพุทธภาวนาเวสเตอร์โรส สวีเดน พระมหาสุริยา วรเมธี เจ้าอาวาสวัดไทยการเดอร์โมน นอร์เวย์ พระครูวิเทศสุคเมธี เจ้าอาวาสวัดธัมมปทีป เบลเยียม พระครูสุตรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต พระมหาวิเชียร สุธีโร ผูัอำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต พระมหาโกศล ธีรปญโญ ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ พระครูสมุทรวชิรานุวัตร อาจารย์ประจำวิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี กรรมการอุปถัมภ์โครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ และพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ให้เกียรติร่วมจัดพิธีและร่วมเป็นวิทยากรในการนี้อย่างอบอุ่นและพร้อมเพรียงกันพระมหาสุรศักดิ์ กล่าวในท้าย