วันที่ 17 มี.ค. 67 เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานความคืบหน้ากรณี นายกิจ หลีกภัย ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง ใช้งบประมาณโดยผ่านสภาฯ เมื่อปี พ.ศ.2552 จำนวน 10 ล้านบาท ในการปรับพื้นที่ และอีก 25 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างตัวอาคารมัสยิดกลาง จ.ตรัง หรือโครงการก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม ประจำ จ.ตรัง หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่ง อบจ.ตรัง มีการเบิกจ่ายงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ไปแล้วจำนวน 82,184,972 บาท
จากนั้นก่อนที่ นายกิจ หลีกภัย จะหมดวาระลง ได้ทิ้งทวนตั้งงบประมาณอีกจำนวน 8,842,000 บาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ แต่ปรากฏว่า ระยะเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบันกว่า 15 ปีแล้วนั้น มัสยิดกลางดังกล่าว ยังไม่แล้วเสร็จ และไม่ได้เปิดใช้เพื่อปฏิบัติศาสนกิจได้ตามวัตถุประสงค์ จึงยังไม่สามารถดำเนินการส่งมอบให้กับทางคณะกรรมการกลางอิสลาม จ.ตรัง นำไปใช้ประโยชน์ได้
ป.ป.ช.ตรัง ฟันอาญา อดีตนายก‘กิจ หลีกภัย’ พี่ชาย‘ชวน’ จัดซื้อที่ดินราคาสูงเกินจริง
ปัจจุบันตัวอาคารและอุปกรณ์หลายส่วน เกิดการชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา มีหญ้าและวัชพืชปกคลุมพื้นที่ ต่อมานายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งต่อจาก นายกิจ หลีกภัย จึงมีการใช้งบประมาณผ่านสภาฯ จำนวน 2 ล้านบาท ในการปรับปรุงหลังคา เนื่องจากมีน้ำรั่วจนฝ้า เพดาน และตัวอาคารด้านในได้รับความเสียหายต่อมาเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดตรัง และภาค 9 รวมทั้งสำนักงาน สตง. และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งนายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง ได้ทำหนังสือร้องไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 (จังหวัดนครศรีธรรมราช) เพื่อให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างมัสยิดดังกล่าว
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า มีข้อบกพร่อง เนื่องจากการดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจ จึงได้แจ้งข้อบกพร่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปแล้วนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด สืบเนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 (จังหวัดนครศรีธรรมราช) ได้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามประจำจังหวัดตรัง (มัสยิดกลางจังหวัดตรัง) ของ อบจ.ตรัง
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า มีข้อบกพร่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจ
การสร้างศาสนสถานหรือมัสยิดไม่ได้อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ อบจ. และอบจ.ตรัง ตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพื่อก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามประจำจังหวัดตรัง (มัสยิดกลางจังหวัดตรัง) โดยไม่มีอำนาจหน้าที่เป็นการปฏิบัติไม่ชอบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 34
การจ่ายเงินและก่อหนี้ผูกพันโครงการก่อสร้างมัสยิดกลางจังหวัดตรังไปแล้ว จำนวน 82,184,972.58 บาท เป็นการปฏิบัติไม่ชอบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 67 ให้ อบจ.ตรัง ดำเนินการเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐ จำนวน 82,184,972.58 บาทจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานพบว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวและการเบิกจ่ายเงินในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2550-2562 อบจ.ตรัง ได้รับความเสียหายเป็นเงิน จำนวน 72,430,271.25 บาท อาศัยอำนาจตามความในข้อ 8 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิด ทางละเมิดในเรื่องดังกล่าว
ประกอบด้วย 1.นางนาฏยา หนูสมจิตต์ ผอ.กองสวัสดิการสังคม เป็นประธานกรรมการ 2.นางนุชลักขณ์ สุขประเสริฐ หัวหน้าสำนักปลัด อบจ.ตรัง เป็นกรรมการ 3.นางนิตยา นุ้ยเอียด นิติกรชำนาญการ เป็นกรรมการ 4.นายทัยวรรณ ไกรทอง นิติกรชำนาญการ เป็นกรรมการ 5.น.ส.กาญฎา ทองเหลือ นิติกรชำนาญการ เป็นกรรมการ/เลขานุการ 6.นางพงษ์ทิพา ณ นคร ผู้ช่วยนิติกร เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ดำเนินการตรวจสอบ สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานกรณีดังกล่าว โดยถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์ การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการทราบคำสั่ง
ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาได้ ให้คณะกรรมการฯ รายงานเหตุที่ทำให้การดำเนินการไม่แล้วเสร็จต่อผู้แต่งตั้งเพื่อพิจารณาอนุมัติ ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามความจำเป็นครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จ แล้วสรุปสำนวนการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้แต่งตั้งเพื่อพิจารณา สั่งการต่อไป สั่ง ณ วันที่ 21 ก.พ. 2567
ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง มีการปักหมุดโครงการก่อสร้างมัสยิดกลางไว้ในหมุดความเสี่ยงต่อการทุจริต และมีการดำเนินการติดตามตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดดังกล่าว มีการย้ำให้คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
Leave a Reply