วันที่ 29 เม.ย. 67 กรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จับแก๊งล่าสัตว์ป่าภูเขียว พบพระดังระดับรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ สามเณรรวม 4 รูป และฆราวาส ร่วมทริป โดยเจ้าหน้าที่สามารถรวบสามเณร ได้ 2 รูปยึดอาวุธปืน-ซากสัตว์ ส่วนที่เหลือยิงปืนสกัดเจ้าหน้าหลบไปได้

ขณะที่เมื่อวานนี้ (28 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายว่ารองเจ้าคณะจังหวัดได้เข้าไปรายงานตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.โนนเหม่า อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังให้การกับทางเจ้าหน้าที่เสร็จ ได้เดินทางกลับทันที โดยถูกตั้งข้อหาร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า,ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า,มีซากสัตว์ฯเป็นของกลางเช่นเดียวกับผู้ร่วมในการเข้าไปล่าสัตว์ ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยไม่ต้องประกันตัว เพราะยังไม่มีหมายเรียก หรือหมายจับ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามถึงสาเหตุการเข้าป่าไปร่วมในขบวนพรานป่าล่าสัตว์ป่าในครั้งนี้ แต่รองเจ้าตณะจังหวัด  ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เพียงบอกสั้น ๆว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทนาย ก่อนเดินทางกลับวัดทันที

ล่าสุดวันนี้ (29เม.ย.67) ทีมข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ชัยภูมิ ขอพบกับ น.ส.ธัชสริญญ์ ฤทธิ์โชติ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ชัยภูมิ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูล เนื่องจากต้องรีบเดินทางไปประชุมประจำเดือนที่จังหวัด

ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังพบกับ พระราชชัยสิทธิสุนทร เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่าเพิ่งได้รับรายงานที่เกิดขึ้น ในรายงานระบุว่า รองเจ้าคณะจังหวัดเข้าป่าพร้อมลูกศิษย์เพื่อเดินธุดงค์ปฎิบัติธรรมเท่านั้น เพราะท่านเป็นคนชอบเดินป่า และบ้านท่านก็อยู่ในป่า ไม่ได้ไปล่าสัตว์แต่อย่างใด ซึ่งได้ส่งรายงานไปให้พระชั้นผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯทราบแล้ว ส่วนจะมีการพิจารณาอย่างไรขึ้นอยู่พระผู้ใหญ่จะเป็นผู้พิจารณา เจ้าคณะจังหวัดตัดสินใจเองไม่ได้

ที่มา..ช่อง ONE