วันที่ 4 ตุลาคม 2567 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีต “พระพุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และอดีตพระนักเคลื่อนไหวทางสังคมชื่อดัง ได้เกาะติดคำสอนของ พระทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ หรือ พระอาจารย์ต้น สำนักศึกษาธรรมดอยธรรมนาวา อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นตอนที่3 โดยระบุว่า ขอคิดต่างจากโสดาต้นอีกสักหน่อยนะจ๊ะ โดยมีความว่า พระองค์จึงตรัสว่า
4. พระโสดาบัน ยังทำบาปกรรมทางกาย วาจา หรือใจ ไปบ้างเพราะ ความพลาดพลั้ง แต่ท่านก็ไม่ถือเอาภพที่แปด โทษเหล่านั้นก็ไม่มี
พุทธะอิสระสงสัยนะสงสัย
สงสัยว่า พระองค์จึงตรัสเอาไว้ในพระคัมภีร์บทใด สุตตันตปิฎก อภิธรรมปิฎก หรือวินัยปิฎก หรือพูดเองเออเอง ต้องหาที่มามายืนยันให้ได้นะโสดาต้น ไม่งั้นต้องเจออีกข้อหาหนึ่งแน่
พระอาจารย์ต้น : เราคิดว่า พระโสดาบันมีศีลบริบูรณ์ใช่มั้ย ศีลบริบูรณ์แบบเต็มร้อยเลยใช่มั้ย
พิธีกร : ค่ะ
พระอาจารย์ต้น : อันนั้นคือเราคิด แล้วพระโสดาบันมีศีลบริสุทธิ์หละ มันคือมีความบริสุทธิ์อยู่ ๒ แบบ
ถ้าเป็นปุถุชนคือ การบริสุทธิ์โดยการสมาทาน แต่ถ้าเป็นพระโสดาบัน บริสุทธิ์โดยไม่ต้องสมาทาน
คำว่า บริสุทธิ์โดยไม่ต้องสมาทาน คือ
5. (เมื่อผิดพลาดเกิดขึ้น เขาตั้งเจตนาที่จะไม่ทำผิดนั้นอีกได้) แต่ถ้าเป็นปุถุชนต้องตั้งเจตนางดเว้นอยู่เรื่อยๆ ตั้งเจตนางดเว้นอยู่บ่อยๆ ในกาลบางคราวบ้าง ในกาลเป็นระยะเวลาติดต่อเนื่องกันหลายๆ วัน แล้วก็ในนิจศีลตลอดชีวิตก็ได้ อันนั้นคือบริสุทธิ์โดยการสมาทาน
อันนี้พุทธะอิสระไม่อยากสงสัย เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพระธรรมวินัยจากการมโน เมาน้ำลายของโสดาต้น แต่ที่ต้องเห็นต่างคิดต่าง ก็คือ คำต่อไปนี้
6.. พระโสดาบันไม่ต้องสมาทาน คืออะไรก็ตามที่เป็นความผิด บาปกรรมทางกาย วาจา หรือใจ ใดๆที่เป็นความผิดพลาดพลั้ง คือ เกิดจากการประมาท พลาดเผลอ มันมีอยู่ ท่านก็ถือเอาภพที่แปด จากการทำความผิดเหล่านั้น
Leave a Reply