ผู้บริหารระดับสูง มจร. “ไฟเขียวตั้งรพ.สนาม” ใน มจร วังน้อย

      วันที่ 15 ก.ค. 64  เมื่อวานนี้หลังจาก พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)  ได้มีคำสั่งให้วิทยาเขตทั่วประเทศประมาณ 50 กว่าแห่งทุกจังหวัดที่มีความพร้อมเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามหรือที่พักฟื้นสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด -19 พร้อมทั้งตั้งโรงทานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ซึ่งได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างต่อเนื่อง

       ล่าสุดมีการประชุมผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อขอความเห็นชอบและข้อเสนอแนะเรื่อง การตั้งโรงพยาบาลสนามภายในศูนย์พยาบาลมหาวิทยาลัยมหาลงกรณราชวิทยาลัยวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

     ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่า หากตั้งโรงพยาบาลสนามภายใน มจร วังน้อย อาจส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่บุคลากรที่พักอยู่ภายในและรวมทั้งมีหอพักนิสิตนานาชาติซึ่งเป็นสถานที่พักสำหรับนิสิตนานาชาติทั้งพระภิกษุ สามเณร ภิกษุณีและฆราวาสเป็นจำนวนมาก

     พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ในฐานะประธานศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มจร เปิดเผยว่า

     เมื่อวานนี้ผู้บริหารระดับสูงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า จะเปิดโรงพยาบาลสนามที่วังน้อย ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ในสถานการณ์แบบนี้คณะสงฆ์ มหาวิทยาลัยสงฆ์ ต้องออกไปช่วยเหลือประชาชนกันให้มาก แม้เราจะมีบุคลากรและนิสิตพักอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หลังจากนี้อาตมาในฐานะประธานศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มจร ที่ประชุมมอบหมายให้ดูแลและประสานงานกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คงจะต้องปรึกษาหารือกับสาธารณสุขจังหวัดเพื่อหามาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของฝ่ายบ้านเมืองและมหาเถรสมาคม เช่น บุคลคลกลุ่มใดบ้างที่จะเข้ามาพักฟื้น ใครดูแล ระบบดูแลต้องวางแนวกั้นระหว่างศูนย์พยาบาลและหอพักซึ่งอยู่ติดกันอย่างไร เรื่องอาหาร เรื่องขยะ  เป็นต้น

      “ตอนนี้เท่าที่ทราบเฉพาะวังน้อยนี้มีคนรอเตียงอยู่ประมาณ 60 รายและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้บุคคลากรของเราเองก็เคยติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ตอนนี้หายแล้ว บางคนอยู่ในช่วงกักตัว และบางคนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่ประชุมเลยมีมติให้ใช้ศูนย์พยาบาลของ มจร ซึ่งรองรับได้ประมาณ 20-30 เตียง แต่หากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแบบนี้ อาจต้องขยายไปสู่อาคารอื่นได้อีก ซึ่งตอนนี้เราก็มีแผนรองรับไว้แล้วว่าจะใช้อาคารใด เมื่อวานก่อนอธิการบดีพระธรรมวัชรบัณฑิต ท่านมีนโยบายแล้วว่า ให้วิทยาเขต ศูนย์เรียน มจร ทั่วประเทศที่ความพร้อม ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนทำโรงพยาบาล เช่น วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มจร.วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง ท่านก็ดำเนินการไปแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการตั้งโรงทาน เราทำก่อนล่วงหน้าไปแล้ว..”

       สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สถาปนาโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ภารกิจของเรา นอกจากมีปณิธานเป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงสำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์แล้ว ยังมีพันธกิจในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคมอีกด้วย ทั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยแห่งนี้ อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ด้วยเช่นกัน..พระเทพปวรเมธี กล่าวปิดท้าย

Leave a Reply