เห็นภาพพระสงฆ์ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว อดชื่นชม ชื่นใจมิได้
การช่วยเหลือประชาชนของคณะสงฆ์แบบนี้ ตอนนี้น่าจะครอบคลุมทุกจังหวัดแล้ว บางรูปตั้งโรงทานไม่พอออกตระเวนแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนที่เดือดร้อนทั้งผู้ป่วยติดเตียง เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เด็กเล็ก ลูกอ่อน แม้คนต่างศาสนา พระภิกษุสงฆ์ออกช่วยเหลือหมด เห็นภาพการน้อมตัวลง ของพระภิกษุสงฆ์มอบสิ่งของให้กับประชาชน “เป็นภาพที่งดงาม” ยิ่งนัก
การตื่นตัว ของคณะสงฆ์ยุคนี้ สอดคล้องกับ หลักธรรมะ ของพระพุทธเจ้าแท้ ๆ ยุคนี้บางเรื่องอาจต้อง “วางวินัย” วางข้อที่เป็น “ลหุกาบัติ” ไว้บนหิ้งก่อน
ชีวิตประชาชนสำคัญกว่า การแสดงน้ำใจ การแสดงความเมตตาต่อ ผู้ให้ข้าวให้น้ำ ในยามที่เขาทุกข์ยาก “สำคัญ” กว่าชนิดใด ๆ
พระสงฆ์..ที่ออกช่วยเหลือประชาชนยามนี้ หาก “เปรียญสิบ” มีอำนาจจะตอบแทนด้วยการ “ถวายสมณศักดิ์” ให้ทุกรูป..ตามวัยวุฒิและคุณวุฒิ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
ดีกว่าให้..พระภิกษุสงฆ์ที่นั่งอยู่แต่ภายในกุฎิและนั่งสั่งการอยู่เพียงแต่ในห้องแอร์
ขวัญและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคนทำงาน แม้ท่านไม่ได้เรียกร้อง แต่ “ผู้มีอำนาจ” ต้องพิจารณา
เพราะพระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ คือ “พระของประชาชน” อย่างแท้จริง “ได้ใจพระก็ได้ใจประชาชน”
@เห็นพระภิกษุบางรูป “ทิ้งขันน้ำมนต์” แม้อายุจะเลยวัยเกษียณแล้ว..ก็อย่างขยันช่วยเหลือประชาชน
@เห็นพระภิกษุบางรูป “ทิ้งตำรา” ลงพื้นที่วิ่งเข้าหาประชาชน เพราะทนเห็น “ความหิวโหย” ของประชาชนไม่ได้
@ เห็นพระภิกษุบางรูป “ทิ้งไมล์” ลงไปตามชุมชนหมู่บ้านต่าง ๆ อย่างขยันขันแข็ง โดยไม่กลัวการแพร่ระบาดของโควิด -19
@เห็นพระภิกษุบางรูป “เปิดวัด” ตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยไม่เกรงกลัวต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
@เห็นพระภิกษุบางรูป “ทิ้งจีวร” สวมชุดป้องกันการติดเชื้อ แทน สัปเหร่อ เผาศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด -19
พระภิกษุสงฆ์แบบนี้ “ไม่ยกย่อง” ไม่เคารพ ไม่สนับสนุนแล้ว จะไปสนับสนุนใคร
ดีกว่า “บางรูป” ที่มีตำแหน่งสูง มีการศึกษาสูง และมีสมณศักดิ์สูง เก็บไว้ในตู้ แต่ไม่ทำอะไรเลย
วัน ๆ สร้างแต่วาทกรรม วัน ๆ ได้แต่ นะจ๊ะ นะจ๊ะ กับบรรดาพวกเศรษฐีมีเงิน
ที่พระเทศพม่า..มีบางรูป ไม่ยอมปวารณา “เข้าพรรษา” เพราะต้องไปช่วยเหลือ เก็บศพ ตระเวนช่วยเหลือชาวบ้านตามชุมชนต่าง ๆ
พระแบบนี้ เป็นพระของประชาชน แท้ ๆ
เสียดายวัฒนธรรมไทย ดันไปยกย่อง นับถือ บุคคลประเภทนี้ด้วย
ไม่ยกย่อง พระต่างจังหวัด ไม่ยกย่องพระติดดิน ซ้ำไม่ยกย่องพระตากแดด ตากฝน
“เปรียญสิบ” ดีใจที่เห็น มจร จัดตั้งโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ 15 สนาม โรงทานอีก 16 โรงทาน เพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วน มมร.ก็เปิดเป็นสถานที่ทิ้งข้าวสารอาหารแห้งให้กับประชาชน
หากรัฐคิดจะทำงานร่วมกับคณะสงฆ์หรือพูดหยาบ ๆ “หากคิดจะใช้พระ” ทำงานช่วยเหลือสังคมมิใช่เรื่องยาก เพราะพระสงฆ์นับตั้งแต่ระดับพระสมเด็จลงมา ส่วนใหญ่มาจากบ้านนอกประเภทเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย มาแล้วทั้งสิ้น มีใจอยู่แล้ว และที่สำคัญบุคคลเหล่านี้ “มีจิตอาสา” ดีกว่า ทหาร ตำรวจ ข้าราชการเยอะ ซ้ำไม่ต้องมี “เบี้ยเลี้ยง” ไม่ต้องมี “เงินเดือน” ขอให้ท่านช่วยระดมทุนได้อีกต่างหาก
แต่ที่ผ่านมาภาครัฐ ไม่ค่อยสนใจพระสงฆ์ ซ้ำบางหน่วยงาน “ตามจับผิด” อีกต่างหาก ความร่วมมือระหว่างรัฐกับสถาบันสงฆ์จึงมี “รอยร้าวและทิ้งระยะห่าง” ต่างคนต่างทำ
หวังว่าสถานการณ์โควิด-19 นี้จะเห็นความร่วมมือร่วมใจระหว่างรัฐกับคณะสงฆ์ ส่วนการสร้างขวัญและกำลังใจถวาย “สมณศักดิ์” เป็นเรื่องของพระมหากษัตริย์ในฐานะทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ..โยมไม่เกี่ยว!!
…………………
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย …“เปรียญสิบ” : [email protected]
Leave a Reply