มีเรื่องเล่า : วันวิสาขบูชาโลก

“ผู้เขียน” ได้รับการร้องขอจากหลายภาคส่วนทั้งที่เป็นพระภิกษุและฆราวาส บอกว่าช่วยเล่ารายละเอียดสักหน่อยว่า มองการจัดงานวันวิสาขบูชาปีนี้อย่างไร แตกต่างจากทุกปีมีอะไรบ้าง และสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้มีอะไร ประเทศไทยได้อะไรบ้าง

“ผู้เขียน” ตอบไปแบบตรง ๆ  ว่า การจัดงานวิสาขบูชานานาชาติปีนี้ ผู้เขียนเข้าไปมีส่วนร่วมหลายเวทีหลายภาคส่วน หากจะ “วิพากษ์วิจารณ์” ก็เสมือน “ด่าตนเอง”  และปีนี้หากจะว่าไปแล้ว..หาข้อผิดพลาดยาก ทั้งในกิจกรรมใน มจร และที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ หรือ UN  ซึ่งเดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด

การจัดกิจกรรม “วันวิสาขบูชาโลก” โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง “แกนนำหลัก” คือ พระราชวัชรสารบัณฑิต รองอธิการบดีฝ่ายงานแผนและพัฒนา มจร พระคุณเจ้าดึงหลายภาคส่วนเข้าไปมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมซึ่งเป็นไปตามที่ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยโดย “พระพรหมบัณฑิต” ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) และ “พระพรหมวัชรธีราจารย์” อธิการบดีบดี ในฐานะเลขาธิการสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก ได้ให้นโยบายไว้ว่า การจัดกิจกรรมวันวิสาขบูชานานาชาติปีนี้ ขอให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยดึงเครือข่ายต่าง ๆ ให้เข้ามาร่วมให้ได้มากที่สุดอย่างน้อย 3 ภาคส่วนด้วยกัน คือ หนึ่ง ในส่วนของ มจร ต้องให้ทุกหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งหน่วยงานในส่วนกลาง และวิทยาเขตตามจังหวัดต่าง ๆ โดยค่าเดินทางไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถยนต์ การนอน การฉัน การกิน ให้ มจร ส่วนกลางรับผิดชอบทั้งหมด สอง องค์พระธรรมทูต ไม่ว่าจะเป็นสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือเอเชีย ให้นิมนต์ท่านเหล่านั้นเข้ามาร่วมกิจกรรม และสาม ศิษย์เก่าทั้งที่เป็นพระภิกษุและคฤหัสถ์ ดึงเข้ามาร่วม

แนวคิดนี้เปรียบเสมือนว่า “มจร” คือ เป็นบ้าน เป็นวัด เป็นสมบัติ ของชาวพุทธทุกคน

“เจ้าคุณประสาร” ซ้ำบอกต่อว่า ดึง 3 ภาคส่วนนี้มาร่วม แต่ไม่ได้หมายความว่าให้มา “ร่วมงาน” อย่างเดียว แต่ให้เข้ามาช่วยเป็น “ทีมงานเลขา” ให้มาทำงานร่วมกับส่วนกลาง ณ ศูนย์ประสานงานวันวิสาขบูนานาชาติ  “ช่วยคิด ช่วยทำ” ให้พักอยู่ภายในอาคาร 92 หรือ “โรงแรม มจร” จองห้องเอาไว้ 40 ห้อง ทุกอย่าง มจร ส่วนกลางดูแลหมด

“พระพรหมบัณฑิต”  ทุกครั้งที่ประชุมท่านเป็นห่วงคนมาร่วมน้อย เพราะการจัดกิจกรรมวันวิสาขบูชานานาชาติของประเทศไทย เน้น “วิชาการ” ไม่ได้เน้น “บันเทิง” หรือ “การละเล่น” เหมือนกับหลายประเทศจัด มีการละเล่น มีริ้วขบวน มีรถบุปผชาติ สวยงาม

แต่การจัดของ “สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก” เน้นไปที่สาระ มากกว่า วาไรตี้ หรือ บันเทิง

“มจร” จัดสถานที่ปีนี้ “สวยงาม” มีซุ้มประตูประดับสวยงามใครผ่านไปมารู้ทันทีว่า “มจร” มีงาน “วิสาขบูชานานาชาติ”  ธีมจัดงานปีนี้คือ “ขาว เหลือง” หมายความ ว่า ขาว คือ ศาสนา ส่วนเหลือง คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากกิจกรรม “วันวิสาขบูชานานาชาติ” ปีนี้ มหาเถรสมาคม รัฐบาล จัดขึ้นเพื่อเฉลิมถวายพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสครบ 6 รอบ 72 พรรษา

เฉพาะฉะนั้น ถ้าสังเกตตั้งแต่เข้าประตู มจร ไป จนถึง อาคาร มวก. 48 พรรษา ทั้งริ้วธงจะมี 6 ธง คือ ธงชาติ ธรรมจักร ธงเฉลิมพระเกียรติ ธง มจร ธงงานวิสาขบูชา และธงฉัพพรรณรังสี ตลอด 600 เมตร จากประตูใหญ่ จนถึง อาคาร มวก. 48 พรรษา

“วันงาน”  สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานเปิดงานมาแทน “สมเด็จพระสังฆราช” ปีนี้สิ่งที่ “พระพรหมบัณฑิต” เป็นห่วงเรื่องคนมาร่วมงาน “หมดห่วง” พระภิกษุ ฆราวาส ไม่รู้มาจากไหน ห้องประชุมเตรียมเก้าอี้ไว้ประมาณ 2,500 ที่นั่ง เต็มเอียด เจ้าหน้าที่ต้องเสริม ซ้ำคนทะลัก ไม่มีที่นั่งรอบ ๆห้องมันจึงดูแปลกตากว่าทุกปีคือ มีคนยืนเต็ม สำหรับแขกนานาชาติทั้งพระภิกษุและคฤหัสถ์ คนที่ “สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก” ไม่ได้ส่งชื่อมายัง “มจร” ที่นั่ง “วี.ไอ.พี” ไม่มี อาจดู “ขรุขระ”  นิดหน่อย

ซ้ำมี “คิวแทรก” คือ การสวดมนต์ของกลุ่ม “ศากยบุตรสามเณรสีหะ” จากมหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย ภายใต้การอนุญาตหน้างานของ “พระพรหมบัณฑิต” ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก และ “แม่งาน” คือ เจ้าคุณประสาร

อาหาร การฉันไม่มีปัญหา สำหรับนานาชาติ จัดไว้ทั้งอาคารเจ จากโรงแรม ด้านนอกมีโรงทานมาร่วมอีก 20 กว่าโรง

สิ่งที่แขกนานาชาติและผู้ร่วมงานให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ “การถ่ายรูป” ด้วยระบบ AI ทั้งพระภิกษุและคฤหัสถ์เข้าคิวแถวยาวเหยียด

แจ้ง “พระพรหมบัณฑิต” ว่าปีนี้เอาบริษัทฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 242 ปีมาจัด มันเลยดูอลังการ พร้อมกับรายงาน ธีมงานให้ท่านทราบ โดยเฉพาะหน้าเวทีหลายคนหากไม่สังเกตไม่รู้ว่ามันคือธีม “วันวิสาขบูชา” ประสูติ  ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีดอกบัว 7 ดอก ธรรมจักร และเครื่องพานพุ่มทองน้อย

ส่วน “ล่าม” แปลทั้งในส่วน MCU.TV ถ่ายทอดสด และในห้องประชุม ซึ่งปีนี้มีหัวหน้าทีม คือ “พระมหาสมชาย กิตฺติปญฺโญ” หัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศ คณะมนุษยศาสตร์ มจร จัดหาล่ามไว้ซึ่งเป็นคณาจารย์ มจร ทั้งหมด 17 รูป/คน เว้นล่ามภาษาจีน นี้ต้องหาจาก คนนอก ส่วนพิธีกร

“ภาพรวม” ในส่วนการจัดงาน “มจร” ถือว่าดีใช้ได้ ไม่ติดขัดหรือ “สะดุด” แต่ประการใด  

ส่วนที่ “UN” หรือ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ มี “โปรดิวเซอร์” คือ “เจ้าคุณหรรษา” พระเมธีวัชรบัณฑิต ผอ.วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) เป็นแม่งานหลัก ซึ่งท่าน “เชี่ยวชาญ” อยู่แล้ว เป็นคนจัดงานวิสาขบูชาโลก ทุกปี เบื้องหลังความสำเร็จการจัดงาน “วิสาขบูชาโลก” ในส่วนของ “มจร” เจ้าคุณหรรษาเป็นผู้มีส่วนสำคัญ ทั้งเรื่องประสานงานกับแขกนานาชาติ การต้อนรับ เรื่องโรงแรม

ปีที่แล้ว “ติดขัด” เรื่องอาหาร ไม่เพียงพอ ปีนี้ “จัดเต็ม” มีอาหารว่าง มีอาหารทั้งระดับวีไอพี และบุฟเฟ่ต์ อาจจะติดขัดบ้างเรื่อง “คนเข้าร่วมงาน”

อันนี้มิใช่ความผิด “มจร” หรือ “คนจัดงาน” แต่เป็น “นิสัย” คนไทยและนานาชาติ เพราะการเข้าร่วมงาน “UN” มิใช่งานวัดหรือที่ มจร ต้องมีบัตร เห็นหน้าชัด ทุกรูป/คน

เห็น “พระคุณเจ้า” ทีมงานเจ้าคุณหรรษาต้อนรับอยู่หน้าประตู ถกเถียงอยู่กับ “รปภ.” ของ UN สีหน้าคร่ำเครียด เพราะบางคนไปไม่มีบัตร บางคนลืมไว้ที่พัก บางคนเป็นผู้ติดตามแขกวีไอพี แต่ไม่มี “บัตร” เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้า ทางแก้คือ..ทำบัตรสำรอง แต่คำถามต่อไปอีก คือ “อาหาร” หากแขกเกินโควต้าจะไปรับประทานที่ไหน อาจ “ติดขัด” เหมือนปีที่แล้ว ซึ่งมีปัญหาทั้งเรื่องอาหารและ “บัตรผี” คือ บัตรปลอม

โชดดีปีนี้ “เจ้าคุณหรรษา” เตรียมสำรองไว้ 1,200 หัว อาหารจึงสมบูรณ์

ช่วงเช้า มีการเปิดงานติดขัดทางเทคนิคมีคนมาเล่าว่าสารคดี “มีแต่ภาพไม่มีเสียง” เห็น โปรดิวเซอร์ใหญ่ กำกับอยู่หลังเวที “บ่นตรึม”

“ผู้เขียน” เดินพูดคุยสักพัก มีธุระต่อ จึงไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงและไม่ได้ร่วมงานบ่าย และทั้งงานที่พุทธมณฑล ซึ่งงานพุทธมณฑลปีนี้ “พศ.” เป็นแม่งาน แปลกแต่ดี! กว่าทุกปี คือ มีริ้วขบวนและรถบุปผชาติ อยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตั้ง “งบประมาณ” แบบนี้ไว้ทุกปี คือ กิจกรรมของ “สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก” ทั้ง มจรและ UN ให้เป็นเรื่องวิชาการไป แต่กิจกรรมบันเทิงบนฐานแห่งวันวิสาขบูชา ดึงคนรุ่นใหม่ ดึงภาคเอกชน ธุรกิจ ไปมีส่วนร่วม และแบบนี้ควรจัดที่ “พุทธมณฑล”   มิใช่มีแต่กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม คนไปร่วมก็มีแต่เกณฑ์กันมา มีแต่พระแก่ ๆ โยมแก่ ๆ  มันต้องจัดให้ดูยิ่งใหญ่ หากมีงบประมาณลองไปดูการจัดงานวิสาขบูชาที่เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซียบ้าง คนมาร่วมเป็นหมื่น

สำหรับ “ปฎิญญาชาวพุทธ” ทั้ง 73 ประเทศ มีทั้งหมด 12 ขอ สาระสำคัญนอกจากขอให้รัฐบาลร่วมกัน “ลดความขัดแย้ง” แล้ว คือ การความชื่นชมโครงการแปลพระไตรปิฏกฉบับหลวง เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งในการแปลนี้ มีนักปราชญ์ชาวไทยและนานาชาติ แปลพระไตรปิฏกภาษาบาลีฉบับสยามรัฐ จำนวน 45 เล่ม เป็นภาษาอังกฤษ โครงการนี้ริเริ่มโดยกรรมการมหาเถรสมาคมแห่งประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลไทย เพื่อฉลองการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10  ซึ่งในปีนี้ตรงกับการฉลองพระชนมายุ 72 พรรษา จะพิมพ์พระไตรปิฏก จำนวน 3 เล่ม จากแต่ละปิฏก และปีหน้า คณะสงฆ์ชาวพุทธเวียดนาม รับเป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 20 ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 4ที่ประเทศเวียดนามได้รับเกียรติสูงสุด เราขอเชิญชวนผู้นำชาวพุทธ นักปราชญ์ ผู้สนใจทุกท่านร่วมงานกับพวกเราสำหรับโอกาสสำคัญเช่นนี้

งาน “พีอาร์” ปีที่แล้วอาศัยบารมี “ปลัดเก่ง” นายสุทธิพงษ ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ติดต่อบริษัทแพลนมีเดียร์ช่วยประชาสัมพันธ์ “ให้ฟรี” ตามจอ LED ตั้งแต่ “สนามบินสุวรรณภูมิ” จนถึง “อยุธยา” รวมถึงตามแยกต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร ตามถนนในจังหวัดอยุธยา ติดตั้งธงธรรมจักร ธงงานวิสาขบูชา “ติดพรึบ”ซ้ำปีที่แล้วหลายตึกในกระทรวงมหาดไทยติดป้ายงานวิสาขบูชา “คลุมตึก” เลย และน่าจะเป็นครั้งแรกของกระทรวงมหาดไทยที่ทำแบบนี้ ปีนี้ “เงียบเหงา”  อันนี้ “คนรับผิดชอบ” ต้องหาทางออก นึกถึงเรื่อง “โคนันทิวิสาล” เอาไว้ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นพระหรือโยมต้องการ “กำลังใจ” และคำชื่นชมทั้งนั้น

กิจกรรมปีนี้กับปีที่ผ่านมา ไม่แตกต่างอะไรกันมาก อาจแตกต่างบ้างก็แบ่งกันทำงานในส่วนของ มจร สาระสำคัญการจัดงานเหมือนเดิมคือ “วิชาการ” 

และถ้าถามว่า ประเทศไทยได้อะไร งานวิสาขบูชานานาชาติ ชื่องานเป็น “บวก” อยู่แล้ว เพราะเหตุนั้นทุกอย่างที่สื่อต่างชาติหรือคนมาเยือน ล้วนได้ไปด้วย “สิ่งดี” ที่ประเทศไทยเรามี เช่น ความสวยงามของประเทศไทย ความมีน้ำใจของคณะสงฆ์ไทยและคนไทย  ความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย การทำงานแบบมืออาชีพของเหล่าเจ้าหน้าที่ มจร ทั้งพระภิกษุและคฤหัสถ์ โดยเฉพาะฝ่ายปฎิคมภายใต้การดูแลของ “ฝ่ายต่างประเทศ”  และรวมทั้งชื่นชมคนไทยในการแสดงออกถึงความ “จงรักภักดี” ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

และส่งท้าย “เกร็ดความรู้” เดิมทีมีข่าวว่า “รองประธานาธิบดีอินเดีย” จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันวิสาขบูชานานาชาติ นี้ด้วย แต่สรุปไม่มา แอบถาม “คนใกล้ชิด” สายอินเดีย บอกว่าสถานทูตอินเดีย ถามยังไปยังกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุว่า งานนี้คณะสงฆ์จัด มิใช่รัฐบาลจัด รองประธานาธิบดีเลยไม่ได้มา แต่บางคนก็ระบุว่า ประเทศอินเดียมีการเลือกตั้ง..ท่านติดภารกิจดังกล่าวจึงมาไม่ได้..จริงเท็จไม่รู้ ฟังหูไว้หู!!

Leave a Reply