วันนี้ 28 สิงหาคม 66 นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ไวยาวัจกรวัดไผ่ล้อม เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมอบอำนาจจาก พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ให้เดินทางไปศาลจังหวัดนครปฐมเพื่อให้ถอนฟ้อง นายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการโหนกระแส และจำเลยประกอบด้วยเจ้าของบริษัทดีคืนดีวัน จำกัด ผู้บริหารช่อง 3 ทั้งหมด รวม 8 คน หลังจากมีการฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ไปเมื่อ วันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในคดีดังกล่าวมีการฟ้องร้องทั้งหมด 10 คน โดยยังคงเหลือจำเลยอีก 2 คนคือ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่) นายจาตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ในคดีดังกล่าว

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวว่า สำหรับในการยื่นฟ้องในคดีนี้สืบเนื่องจาก กรณีที่หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้มีการให้ความเห็นกรณีพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงถึงสถาบัน ซึ่งในฐานนะคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 หรือพระวินยาธิการ มองว่าไม่เหมาะสมและหากถูกร้องเรียนจะร้องมีการดำเนินการอย่างไรในรูปแบบของการปกครองคณะสงฆ์ ต่อมานายไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่) และนายจาตุรงค์ ได้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นการหมิ่นบนหน้าสื่อออนไลน์ โดยพุ่งมาที่หลวงพี่น้ำฝน และวันที่ 28 กรกฎาคม นายกรรชัย ได้เชิญ นายไพรวัลย์ และนายจาตุรงค์ ไปออกรายการโหนกระแส และเนื้อหาในรายการได้มีการพาดพิง ดูหมิ่น หมิ่นประมาทหลวงพี่น้ำฝน ชัดเจนจึงได้มีการยื่นฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมาย ที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีการฟ้องร้องจำเลยทั้งหมด 10 ราย ประกอบด้วย นายไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่) จําเลยที่ 1, นายจตุรงค์ จงอาษา จําเลยที่ 2, บริษัท ดีคืนดีวัน จํากัด จําเลยที่ 3, นายภูดิท หรือกรรชัย กําเนิดพลอย จําเลยที่ 4, นางสาวปทิดา กําเนิดพลอย จําเลยที่ 5, บริษัท บีอีซี-มัลติมิเดีย จํากัด จําเลยที่ 6, นางสาวรัตนา มาลีนนท์ จําเลยที่ 7, นางสาวนิภา มาลีนนท์ จําเลยที่ 8, นางสาวอัมพร มาลีนนท์ จําเลยที่ 9 และนางรัชนี นิพัทธกุศล จําเลยที่ 10

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า วันนี้จะเข้าทำการยื่นคำร้องเนื่องจาก หนุ่มกรรชัย ได้เข้ามาประสานผ่านทางผู้ใหญ่และได้ขอพบกับหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมไปแล้ว โดยมีการเข้ามากราบขอขมาในกรณีที่ได้มีการนำเสนอรายการ ซึ่งหลวงพี่น้ำฝน ท่านได้มีเมตตาที่จะให้อภัยทั้งทางหนุ่มกรรชัยและรวมถึงผู้บริหารสื่อช่อง 3 ซึ่งถือว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนกรณีดังกล่าวหลวงพี่น้ำฝน ได้ให้แนวทางกับสื่อว่าควรจะพิจารณาว่าควรจะให้มีการนำเสนอข้อมูลทางด้านใดที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายและเข้าข่ายผิดกฎหมาย และในฐานส่วนที่เป็นผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบไปด้วย ซึ่งจากนี้ก็จะขอฝากกับสื่อมวลชนว่าควรจะระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย ซึ่งในส่วนคดีที่ 2 ก็ได้ฟ้องร้องไปอีก 10 คนซึ่งมีสื่อมวลชนอยู่ด้วยก็จะเป็นกรณีในการเจรจากันในอนาคตต่อไป

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนายไพรวัลย์ และนายจาตุรงค์ยังคงมีการฟ้องร้องต่อไป ซึ่งตอนนี้มี 2 คดีแล้วและก็ไม่ได้มีการติดต่อประสานงานเข้ามาเข้าใจว่าน่าจะประสงค์ให้มีการพิจารณาในชั้นศาลเนื่องจากมีการท้าทายให้ฟ้องร้องก็ยังจะคงดำเนินการต่อไป ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดนครปฐม ได้มีการนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 25 กันยายน ที่จะถึงนี้

ที่มา : สยามรัฐ