กุฎิพระพรหมสิทธิ “กัลยาณมิตร” หลั่งไหลไม่ขาดสาย หลังได้รับคืน “สมณศักดิ์”

วันที่ 26 พ.ค. 67 เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา  พระราชภาวนาวัชรมุนี (อเนก ยสทินฺโน) เจ้าอาวาสวัดป่าไทรงาม (สาขาที่ 10 วัดหนองป่าพง) อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี หลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศอิตาลี และเยี่ยมสาขาวัดหนองป่าพงในต่างประเทศ ได้เข้าถวายมุทิตาพระพรหมสิทธิ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาสมณศักดิ์ และ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา

พระราชภาวนาวัชรมุนี นับเป็นลูกศิษย์รุ่นแรก ๆ ของหลวงปู่ชา หรือพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แม้ปัจจุบันอยู่ในวัยเกือบ 80 ปี ก็ยังคงมุ่งมั่นในงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญของวัดป่าสายหนองป่าพง ให้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลังจากกลับถึงประเทศไทย พระราชภาวนาวัชรมุนีได้เดินทางเข้าถวายมุทิตาพระพรหมสิทธิ ที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาคืนสมณศักดิ์ ด้วยความผูกพันตั้งแต่ครั้งครูบาอาจารย์ของทั้ง 2 ฝ่าย คือ พระโพธิญาณเถรกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ต่างเป็นสหธรรมิกช่วยเหลือดูแลกันมานาน ความผูกพันเกื้อกูลนั้นยังสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น พระราชภาวนาวัชรมุนีกับพระพรหมสิทธิ ตลอดจนพระสายวัดหนองป่าพงกับสายวัดสระเกศ จึงมีความเคารพนับถือต่อกันมาก

เมื่อหลายปีก่อน พระพรหมสิทธิในฐานะที่ปรึกษาโครงการ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” ของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการปฏิบัติธรรมในเยาวชน ยังได้เสนอให้โครงการดังกล่าวจัดที่วัดป่าไทรงาม เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสปฏิปทาของวัดป่าสายหนองป่าพง ที่เน้นความเรียบง่ายและการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ด้วยวัดป่าไทรงามซึ่งเป็นสาขาของวัดหนองป่าพง ที่มีความสำคัญในสายของหลวงปู่ชา สุภัทโท และเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้และปฏิบัติธรรม โดยพระราชภาวนาวัชรมุนี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติธรรมในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีโอกาสเรียนรู้และปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตของผู้คน

Leave a Reply