ไม่หวั่นปัญหาสุขภาพ!ผู้สมัครแผ่นดินธรรมกาฬสินธุ์ลุยเต็มสูบ หวังปาฏิหาริย์เข้าสภา โฆษกพรรคอ้อนขอคะแนนหนุนทำหน้าที่แทนคุณข้าวก้นบาตรแบบ “เงยหน้าได้อย่างไม่อายฟ้า ก้มหน้าได้อย่างไม่อายดิน”
วันที่ 21 มี.ค.2562 นางสมบูรณ์ พลธิรักษา ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 3 เบอร์ 20 พรรคแผ่นดินธรรม เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีปัญหาสุขภาพก็ไม่ย้อท้อ ตั้งแต่วันสมัครก็ลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่เขต 3 อย่างต่อเนื่อง ชี้แจงสโลแกนของพรรคคือศีลธรรมนำชาติและนโยบายของพรรคอย่างเช่นนำสมาธิภาวนามาประยุกต์ในการเรียนของสอนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเป็นต้น
“ขณะนี้ก็แจกใบปลิวทั่วทุกพื้นที่แล้วแม้บางพื้นที่จะอยู่ไกล แม้ว่าจะขาบวมและปวดแดดร้อนมาก ก็ไม่หยุดคิดว่าเป็นการฝึกความเพียรความอดทนไปด้วย แต่ก็ได้ใจชาวบ้าน คงได้คะแนนความอดทน นี้ถ้าร่างกายปกติเรียกชื่อ ส.ส. รอไว้เลย แต่ก็ไม่แน่อาจมีปาฏิหาริย์” นางสมบูรณ์ กล่าว
โฆษกพรรคอ้อนขอคะแนนหนุนทำหน้าที่ในสภา
ดร.อดิศร หนันคำจร โฆษกพรรคแผ่นดินธรรม ระบุว่า พรรคแผ่นดินธรรมก่อกำเนิดจากการเห็นภัยของพระพุทธศาสนาที่กำลังรุกคืบเข้ามาอย่างเงียบ ๆ รวดเร็วและอันตรายต่อความมั่นคงของพุทธศาสนาตลอดถึงชาวพุทธ พรรคฯนี้ จึงเฟ้นหาสรรหาคนเคยบวช คนที่หวงแหนในสิ่งที่บรรพบุรุษรักษามา เข้าร่วมอุดมการณ์เพื่อปกป้อง สนับสนุน คุ้มครองหวังความมั่นคงสถาพรชั่วลูกหลาน
สาเหตุที่เลือกเฟ้นคนเคยบวช เพราะคนเคยบวชย่อมเข้าใจกิจวัตร การดำเนินชีวิตของสงฆ์เป็นอย่างดี ทั้งเคยอาศัยผ้าเหลือง ข้าวก้นบาตร ดำรงชีพ ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ย่อมรักและหวงแหน อยากตอบแทนคุณของพระพุทธศาสนาที่ทำให้ตนเองมีวันนี้ ตลอดถึงอุบาสกอุบาสิกาผู้เห็นภัยต่าง ๆ ที่ทนต่อการเห็นการย่ำยี รังแกพระสงฆ์อย่างไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมตามเหตุอันน่าจะเป็น
พุทธศาสนพิธีกรรมต่าง ล้วนสอดแทรกแนวปฏิบัติตนต่อผู้ใหญ่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน หลักดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ผิดทั้งคดีโลกและคดีธรรม โดยเฉพาะหลัก “สัทธา” ที่ว่า “กัมมสัทธา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” หรือเรื่องกฎแห่งกรรมนั่นเอง ผู้ที่ทำดีย่อมได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน ผู้ที่ทำไม่ดีย่อมได้รับผลของการกระทำนั้น ก็สมแล้วด้วยเหตุผล ตลอดถึงความ “กตัญญู กตเวที รู้คุณที่ท่านทำแล้ว กระทำตอบแทน”
ถึงกระนั้นพรรคแผ่นดินธรรม เป็นพรรคน้องใหม่ ก็มีข้อผิดพลาดในการคาดการณ์อย่างมาก คือคาดว่าคนเคยบวชเคยอาศัยวัด อาศัยข้าวก้นบาตรยังชีพศึกษาสำเร็จระดับสูง ระดับด็อกเตอร์ ย่อมจะรักเทิดทูนสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสำเร็จในชีวิต แต่กลับมีแนวคิดที่หักล้าง ข่มเหง ดูหมิ่น เหยียดหยาม ไม่รู้คุณไม่สำนึกคุณ เรียกได้ว่าเนรคุณ ถึงขนาดจะยกเลิกการสอนเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นแนวความเชื่อที่สอนแล้วสมเหตุสมผลไม่ล้าสมัยเข้าถึงได้ทุกเพศวัย
นี่แค่บางเรื่องที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะภัยที่มาในรูปแบบของนโยบาย ซึ่งเป็นกฎหมายแล้วต้องปฏิบัติตาม ยิ่งทวีความน่ากลัวของการล่มสลายของพุทธในไทย การจะทำให้สถาบันพระพุทธศาสนามีความมั่นคง สถาพรชั่วลูกหลาน ต้องได้รับการคุ้มครองในรูปแบบของกฏหมาย ผู้ที่กระทำย่ำยี ดูหมิ่นต่อสถาบันพุทธศาสนาต้องได้รับการว่ากล่าวตักเตือนตลอดถึงลงโทษ
“1 เสียงของท่านเหมือนการได้สร้างบุญใหญ่ในพระพุทธศาสนา เราไม่ได้หวังเลยว่าเราจะชนะในเขตเลือกตั้งเขตใดเขตหนึ่ง เราขอแค่คะแนนจากท่าน เราขอแบ่งคะแนนจากครอบครัวของท่านที่ปรารถนาดีต่อพระพุทธศาสนา ขอเถอะครับ เพื่อส่งคนพุทธแท้ๆ เข้าต่อสู้ในสภา” โฆษกพรรคแผ่นดินธรรม กล่าวและว่า
สถาบันพระพุทธศาสนา เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุดที่บรรพบุรุษแลกมารักษามาด้วยเลือดเนื้อแม้กระทั้งชีวิต เราในฐานะอนุชนรุ่นหลังยังจะยอมให้ผู้ไม่หวังดีย่ำยี ข่มเหง เหยียบย่ำหัวใจของชาวพุทธครั้งแล้วครั้งเล่าอีกกระนั้นหรือ ชาวพุทธทุกคน หากหยุดคิดใช้ดุลพินิจสักหน่อย โปรดเลือกพรรคแผ่นดินธรรม จะพูดได้เต็มปากว่า เงยหน้าได้อย่างไม่อายฟ้า ก้มหน้าได้อย่างไม่อายดิน สมเป็นอนุชนที่รักษาถิ่นธรรมของบรรพบุรุษไทย
Leave a Reply