วันที่ 20 สิงหาคม 2567 พระธรรมวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดสังเวช เจ้าคณะภาค 6 ในฐานะเลขานุการ ศ.ต.ภ. เผยว่าการประชุม ศ.ต.ภ. หรือ คณะกรรมการศูนย์ควบคุมการเดินทางไปต่างประเทศสำหรับพระภิกษุสามเณรเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนเองได้เสนอต่อที่ ศ.ต.ภ.ว่าการขอต่ออายุหนังสือเดินทาง (Passport) ของพระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติศาสนกิจและพำนักอยู่ในต่างประเทศ คณะกรรมการ ศ.ต..ภ. เดิมให้อนุมัติเฉพาะประเทศอินเดีย สิงคโปร์ และมาเลเซียเท่านั้น เนื่องด้วยปี พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ โควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกเป็นเหตุให้พระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติศาสนกิจและพำนักอยู่ในต่างประเทศไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อดำเนินการขออนุญาตทำหนังสือเดินทาง (Passport) ได้

คณะกรรมการ ศ.ต.ภ.ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้ออกหนังสือเดินทาง(Passport)เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายแก่พระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติศาสนกิจและพำนักอยู่ในประเทศอื่นอีกโดยมีกำหนด 5 ปีและได้ถือปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน
บัดนี้สถานการณ์ โควิด-19 กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว การขอต่ออายุหนังสือเดินทาง(Passport)เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายของพระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติศาสนกิจและพำนักอยู่ในต่างประเทศเห็นควรมีแนวทางปฏิบัติประการใด จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา ซึ่ง ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติให้อนุโลมตามมติคณะกรรมการ ศ.ต.ภ.ครั้งที่ 23 / 2563 เรื่องอนุมัติให้ออกหนังสือเดินทาง(Passport)แก่พระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติศาสนกิจและพำนักอยู่ในต่างประเทศเป็นกรณีเฉพาะรายมีกำหนด 5 ต่อไป..
พระธรรมวชิรโรดม กล่าวย้ำว่า “สรุปง่าย ๆ ก็คือตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปพระภิกษุสามเณรที่ได้รับอนุญาตให้ไปปฏิบัติศาสนกิจในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถดำเนินการขอต่ออายุพาสปอร์ตในประเทศนั้น ๆ ที่ตนพำนักอาศัยได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยได้แล้ว และกรณีนี้ได้เฉพาะพระสงฆ์..ที่ต้นสังกัดประเทศนั้น ๆ ขอตัวไปปฏิบัติศาสนกิจ ย้ำนะครับ เฉพาะที่ได้รับอนุญาตไปปฏิบัติศาสนกิจ เช่นไปสอนพระปริยัติธรรม เจ้าอาวาสวัดในต่างประเทศขอตัวไปปฏิบัติศาสนกิจอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสมและจำเป็นเป็นระยะเวลานาน ๆ และทั้งนี้ตัองมีการร้องขอการต่ออายุพาสปอร์ต จากเจ้าอาวาสที่อยู่ในต่างประเทศ ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในต่างแดนนั่นด้วย ”


Leave a Reply