ปลัด มท. เปิดกิจกรรม “อถล. ผ่อบ้านกอยเมือง @สันทรายหลวง” ชื่นชมพลังจิตอาสาของชาวตำบลสันทรายหลวง

วันนี้ (31 ส.ค. 67) เวลา 13.30 น. ที่สวนสาธารณะ “สิริสุขนันทน์” เทศบาลตำบลสันทรายหลวง ตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรม “อถล. ผ่อบ้านกอยเมือง @สันทรายหลวง” โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายวีระพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายศิวะ ธมิกานนท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายนักปราชญ์ ไชยานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายภิญโญ พัวศรีพันธุ์ นายอำเภอสันกำแพง นายณัชฐเดช มุลาลี นายอำเภอสันทราย ร่วมเป็นเกียรติพิธี และมี นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานเทศบาล และอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) กว่า 500 คน ร่วมกิจกรรม

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมรดน้ำปลูกต้นจามจุรี และต้นฝนแสนห่า บริเวณสวนสาธารณะ และเยี่ยมชมนิทรรศการการขับเคลื่อนกิจกรรมบริหารจัดการขยะและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของ อถล. เทศบาลตำบลสันทรายหลวง อาทิ สิ่งประดิษฐ์จากขวดพลาสติก ดอกไม้หอมจากซองน้ำยาปรับผ้านุ่ม การผลิตภาชนะจากกาบหมากและวัสดุธรรมชาติ DIY จากยางรถเก่า กระถางปูนจากผ้าเหลือใช้ เสวียนรักษ์โลก ปุ๋ยหมักในวงตาข่าย ธนาคารอุปกรณ์การแพทย์ การดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC) และการส่งต่อผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาร่วมกิจกรรม “อถล. ผ่อบ้านกอยเมือง @สันทรายหลวง” อันเป็นกิจกรรมที่มีค่ายิ่งที่ทางเทศบาลตำบลสันทรายหลวง ภายใต้การนำของนายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ได้สรรค์สร้างและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนกลายเป็นความยั่งยืน สะท้อนผ่านการที่พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข ดังตัวอย่างที่เราเห็นได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ตลอดลำน้ำโจ้ในพื้นที่เทศบาลตำบลสันทรายหลวงของพวกเรา ที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานเทศบาล และประชาชนทุกคน ร่วมไม้ร่วมมือช่วยกันอย่างเต็มที่จนกลายเป็น “พื้นที่ต้นแบบของโลก” ในการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการ “แก้ไขในสิ่งผิด” ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ดังที่พวกเราทุกคนทราบโดยทั่วกันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ แก่พวกเราชาวไทย ด้วยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ทรงห่วงใยและตระหนักถึงความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จึงทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา อันเป็นการ “แก้ไขในสิ่งผิด” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่าง ๆ และความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง ด้วยกลไก “จิตอาสา” ในการเข้ามามีส่วนร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ โดยพระองค์ท่านได้พระราชทานตัวอย่างพื้นที่ต้นแบบ อาทิ การพัฒนาคลองเปรมประชากร ตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และระบบการระบายน้ำ เฉกเช่นเดียวกับคลองแสนแสบ กรุงเทพมหานคร บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ โดยพระราชทานพระมหากรุณาให้ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ลงพื้นที่มาติดตามการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“พี่น้องประชาชนชาวสันทรายหลวงมีผู้นำที่ดี คือ ท่านนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ผู้เป็นผู้นำการ Change for Good อย่างเป็นระบบ ครบกระบวนงานทุกขั้นตอน โดยท่านให้ความสำคัญในการสร้างความรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน เพราะสิ่งแรกที่ท่านนายกนที ดำรงค์ จะทำในทุกเรื่อง คือ “การสื่อสาร การพูดคุย” ไปคุยกับหมู่บ้านจัดสรร ให้ช่วยกันบริหารจัดการพื้นที่ให้มีพื้นที่สีเขียว มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ จนทำให้ทุกคนเข้าใจ แล้วเสนอสภาเทศบาลพิจารณาออกเทศบัญญัติยกเลิกโรงฆ่าสัตว์ที่เคยอยู่บริเวณริมลำน้ำโจ้ ออกเทศบัญญัติควบคุมน้ำเสีย ทำให้ลำน้ำโจ้ที่เคยเน่าเสียจากการทำโรงฆ่าสัตว์ จากการที่บ้านเรือนเคยปล่อยน้ำเสียจากการซักผ้า จากการล้างจาน การใช้ชีวิตลงแหล่งน้ำสาธารณะ กลายเป็นลำน้ำที่สะอาด ไม่เน่าเสีย และขณะเดียวกันท่านนายกนที ดำรงค์ ก็ยังขวนขวายเชิญชวนให้พวกเราช่วยกันปลูกต้นไม้จนเต็มไปทั่วพื้นที่สาธารณะของชุมชน โดยน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่เทศบาลตำบลสันทรายหลวงในทุกครั้งที่ทางเทศบาลตำบลสันทรายหลวงได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงนามหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองพระบาท อันเป็นมิ่งมงคลของพี่น้องประชาชนชาวสันทรายหลวงทุกคน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนมีความตั้งใจเดินทางมาที่นี่ทุกครั้งที่มีโอกาสมาปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความชื่นชอบและชื่นชม ซึ่งชื่อเสียงในด้านพลังการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกด้าน กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คนที่ 51 ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลงานดีเด่นด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง และมอบโล่รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่นด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ เทศบาลตำบลสันทรายหลวง เพราะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีระบบการบริหารจัดการบริการสาธารณะในด้านพัฒนาและปรับปรุงทางกายภาพของพื้นที่ ทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ ยังประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนมีพื้นที่สาธารณะที่มีสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ และมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสม สามารถบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน ภาคประชาชน และทุกภาคส่วน ในการพัฒนาลำน้ำสาธารณะ “ทำหลังบ้านเป็นหน้าบ้าน” ได้อย่างสะอาด สวยงาม เป็นแบบอย่างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ซึ่งท่านนายกพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้นำแนวทางด้านดังกล่าว ของเทศบาลตำบลสันทรายหลวงไปพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองเขียว ในพื้นที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะ ให้มีสภาพแวดล้อมที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ทางด้านการออกกำลังกาย การพักผ่อนหย่อนใจ และการใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ

“จุดแข็งของพี่น้องชาวสันทรายหลวง คือ การเป็น “จิตอาสา” โดยร่วมเป็นอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ที่มีจำนวนมาก และยังได้บูรณาการร่วมกับองค์กรสังคมในการดูแลผู้เจ็บไข้ได้ป่วยควบคู่การช่วยกันดูแลรักษาลำน้ำลำคลอง และสิ่งแวดล้อมของชุมชน เพราะทุกคนเห็นความสำคัญของ “ดินและน้ำที่มีความสัมพันธ์เกื้อกูลกัน” และขอให้พี่น้องชาวเทศบาลตำบลสันทรายหลวง อันประกอบด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา และพนักงานเทศบาลทุกท่าน ได้โปรดร่วมกันในการหนุนเสริมและส่งเสริมกิจกรรมให้กับพี่น้อง อถล. ซึ่งเป็นอาสาสมัครด้านสิ่งแวดล้อมประเภทเดียวที่รับสมัครสมาชิกตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และสามารถใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรม ทั้งในด้านการศึกษาหาความรู้ และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ได้ตลอด 365 วัน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก พ.ศ. 2561 และขอให้เราทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า สิ่งที่เราทำอยู่สอดรับกับสิ่งที่ทั่วโลกกำลังเรียกร้อง นั่นคือ การแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่ที่สันทรายหลวงได้ทำจนเป็นต้นแบบของโลกใบเดียวนี้แล้ว จึงขอให้เราได้ร่วมกันขยายผลและสื่อสารการบริหารจัดการคุณภาพชีวิตด้วยการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งการบริหารจัดการขยะ ตามหลัก “3Rs” (Reuse Reduce Recycle) และต้องถ่ายทอดให้ลูกหลาน ได้เป็นพลเมืองที่ดีของโลกใบเดียวนี้ เพราะ No plan B because we have only one planet “เรามีเพียงแผนเดียวเท่านั้น” ควบคู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ศีลธรรม จริยธรรม เพื่อทำให้พื้นที่สันทรายหลวงแห่งนี้ เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ที่ดึงดูดใจให้คนอยากมาเที่ยว อยากมาสร้างสิ่งที่ดี และนำสิ่งที่ดีกลับไปยังพื้นที่ของพวกเขา ทำให้ทุกคนที่ได้มาเยือนที่นี่ได้รู้สึกว่า “มาที่นี่มันม่วน ทั้ง “ม่วนอ๊ก ม่วนใจ๋” ขอให้เราช่วยกันสร้างสันทรายหลวงให้สมกับเป็นจุดกำเนิดจิตอาสา ให้มีจิตอาสามากขึ้น ๆ อันจะเป็นพื้นที่ต้นแบบในการช่วยกันสอดส่องดูแลและทำให้เกิดสิ่งที่ดีกับบ้านเมืองของเรา ดังชื่อกิจกรรมในวันนี้ที่ว่า “อถล. ผ่อบ้านกอยเมือง” สืบสานภารกิจ อถล. ให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย

Leave a Reply