กมธ.ศาสนาลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิตรวจ “ห้องรับรองพระภิกษุสามเณร” แนะนำหลายประการ ด้านเจ้าหน้าที่เผยเป็นเพียง “ห้องรับรองชั่วคราว”

วันที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. นางเทียบจุฑา ขาวขำประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ กรรมาธิการ พร้อมด้วย ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านการศาสนา  คณะอนุกรรมาธิการ ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการ และเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร  ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องรับรองพระภิกษุสามเณรสนามบินสุวรรณภูมิทั้งสายการบินภายในประเทศและสายการบินต่างประเทศ โดยมีเจ้าหน้าบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด เดินพาชมห้องรับรองพระภิกษุสามเณรทั้งภายนอกและภายใน และรวมทั้ง ทั้งเก้าอี้ที่นั่งก่อนขึ้นบิน

ต่อมาเวลา 14.30 น. คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมประชุมกับ นายกิตติพงษ์ พวงเงิน ผอ.ส่วนงานบริการอาคารผู้โดยสาร ตัวแทนปลัดกระทรวงคมนาคม กรมท่าอากาศยาน และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ

ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล  กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ที่มี นางเทียบจุฑา ขาวขำ เป็นประธานเดินทางมาร่วมพูดคุยกับผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางการอำนวยความสะดวกให้แก่พระภิกษุสามเณรในการใช้บริการสนามบินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ซึ่งมี 6 แห่ง คือ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงราย และสนามบินหาดใหญ่ เท่าที่เดินดูห้องรับรองพระ ห้องแรกที่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นห้องชั่วคราว เท่าที่สังเกตดู ห้องยังไม่พร้อม เพราะไม่มีโต๊ะหมู่บูชา ไม่มีหนังสือธรรมะ มีแต่เก้าอี้และขวดน้ำ  ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเป็นห้องชั่วคราว จึงอยากขอให้ผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิขอใช้ห้องเดิมได้หรือไม่ เพราะห้องเดิมนั่นดูเหมาะสมกว่า ยิ่งช่วงนี้พระคุณเจ้าเดินทางไปกราบสังเวชนียสถานประเทศอินเดีย เป็นจำนวนมาก ส่วนห้องรับรองภายในสนามบินดูแล้วเหมาะสมแล้ว เพียงแต่แผงกั้นควรให้สูงสักนิด เพราะชาวต่างชาติตัวใหญ่มองเข้าไปเห็นหมด รวมทั้งที่นั่งพระคุณเจ้าตอนจะขึ้นเครื่อง ตั้งอยู่ใต้บันได้ทางเดิน คนเดินหากเป็นสตรีเดินข้ามหัวพระคุณเจ้าดูแล้วไม่เหมาะสม อยากให้จัดเป็นที่เป็นทาง และควรมีแผงกั้น เพราะบางทีชาวต่างชาติ แม้จะติดหนังสือไว้ แต่เขาไม่สนใจหรือไม่รู้ เห็นหลายสนามบินบางที่มีชาวต่างชาติมานั่งที่พระก็มีหลายที่

“เรื่องนี้เดียวทางคณะกรรมาธิการจะทำหนังสือถึง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัดและสำนักงานพระพุทธศาสนาอีกครั้ง เพื่อขอความร่วมมือ เนื่องจากการจัดสถานที่รับรองพระภิกษุสามเณร ทางคณะกรรมาธิการได้รับเรื่องร้องเรียนต่อเนื่อง รวมทั้งการตรวจของเจ้าหน้าที่ เมื่อพระภิกษุเดินทางไปต่างประเทศ บางรูปร้องเรียนมาว่า เจ้าหน้าที่บางคนตรวจพระภิกษุเข้มยิ่งกว่าฆราวาส ต้องให้พระคุณเจ้าเอาลูกบวดจีวรออก หมายความว่าให้ถอดจีวรออก เมื่อตรวจด้านใน เพราะเข้าใจว่าจีวรพระเสมือนเสื้อเจคเก็ต ดูแล้วอาจไม่เหมาะสม ในคณะอนุกรรมาธิการเรา เคยติดตามพระคุณเจ้า  บางสนามบินขนาดพระคุณเจ้าที่เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ระดับพระสมเด็จ เจ้าหน้าที่ก็ยังปฎิบัติให้กางมือ กางขา ตรวจหน้า ตรวจหลัง ซึ่งดูแล้ว เหมือนไม่ให้เกียรติท่าน ความจริงเรื่องนี้พระเถระดังกล่าวท่านไม่ได้พูดมา แต่อยากให้สนามบินที่อยู่ในการดูแลของ AOT และกรมท่าอากาศอากาศยาน ช่วยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ด้วย.”

ด้าน นายกิตติพงษ์ พวงเงิน กล่าวว่า บริษัทท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิ จะรับเรื่องที่คณะกรรมาธิการท้วงติงและแนะนำไว้ เพื่อเสนอผู้บริหารต่อไป สำหรับห้องรับรองพระภิกษุสามเณรนั่น ขนาดห้องเท่ากับห้องเดิม เป็นสถานที่รองรับพระภิกษุชั่วคราว ซึ่งจะเป็นห้องเดิมหรือไม่นั่น ต้องให้ผู้บริหารตัดสินใจ ส่วนเก้าอี้นั่งก่อนขึ้นเครื่อง ทางท่าอากาศยาน จะจัดให้เป็นสัดส่วนตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการแนะนำไว้

“สำหรับช่วงนี้มีพระภิกษุสามเณรประเทศอินเดียกันมาก  ซึ่งทำให้ห้องรับรองไม่เพียงพอนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  สามารถทำเรื่องขอเก้าอี้เพิ่มเติม  ซึ่งทำแจ้งมาที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือที่ตนได้ เพราะมีเก้าอีกพร้อมเสริมได้ตลอดเวลา.”

ในขณะที่กรรมาธิการศาสนาบางคน ได้ถาม การอำนวยความสะดวกจัดห้องรับรองพระภิกษุสามเณรจากกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม  นายสุขสวัสดิ์ สุขวรรณโณ  รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ได้ตอบว่า สนามบินในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน ไม่มีปัญหาสำหรับห้องรับรองพระภิกษุสามเณร ทางกรมท่าอากาศยาน ได้จัดไว้ครบทุกสนามบินแล้ว

ส่วนตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ เผยว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ  ตั้งงบประมาณในการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ไว้แล้ว เพียงแต่รอจากสนามบินสุวรรณภูมิว่า ห้องรับรองพระภิกษุสามเณรถาวร จะได้เมื่อไร เพราะปัจจุบันได้รับอนุญาตเป็นเพียงห้องรับรองพระภิกษุสามเณรชั่วคราวเท่านั่น..

“ที่ผ่านมาที่เกิดปัญหาขึ้นเนื่องทางสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับคำสั่งให้ย้ายออกภายใน 1 เดือน เตรียมการไม่ทัน ซึ่งตอนนี้แม้จะเป็นห้องรับรองชั่วคราว แต่ทางสำนักพระพุทธศาสนา ได้เจ้าหน้าที่ 8 คนคอยสลับหมุนเวียนในการอำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุสามเณร ที่มาใช้สนามบินสุวรรณภูมิ”

 

Leave a Reply