เล่าเรื่องคุณหญิงสมปอง : มงคลชีวิต ๙๕ ปีที่มีคุณค่า

        หากเอ่ยนาม นายแพทย์รัศมีและ คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร ทานบดีผู้เปรียบเสมือน “อนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขามหาอุบาสิกา” ไม่มีใครไม่รู้จักโดยเฉพาะชาวมหาจุฬาฯ ย่อมรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะทั้ง ๒ ท่านนี้ นับว่าเป็นผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอย่างยิ่ง กล่าวคือ ได้มีกุศลศรัทธาอันยิ่งใหญ่บริจาคที่ดินแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน ๑๐๐ ไร่ ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่และเป็นศูนย์กลางการบริหารงานตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นไปตามพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระองค์ผู้สถาปนามหาวิทยาลัย คือ การจัดการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงแก่พระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ทั่วไป

          นายแพทย์รัศมี – คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร กอปรด้วยกุศลศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงได้อาราธนาผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เข้าเฝ้ารับถวายโฉนดที่ดินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ขณะนั้นยังทรงมีพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ พร้อมกับทูลเชิญเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยทรงรับโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

          จากการถวายที่ดินของทานบดีทั้ง ๒ ท่าน เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญแห่งการพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพราะเป็นบาทฐานทำให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยได้ดำเนินการตามพันธกิจอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันได้ขยายสาขาเป็นวิทยาเขตและวิทยาลัยสงฆ์ไปยังส่วนภูมิภาคมากกว่า ๔๕ จังหวัด รวมทั้งเปิดรับสถาบันสมทบทั้งในและต่างประเทศอีกหลายสถาบัน (ประเทศ) เข้ามาเป็นภาคีเครือข่าย

          ภารกิจสำคัญที่ท่านทานบดีทั้ง ๒  มีความมุ่งมั่นตั้งใจให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ช่วยสืบสาน รักษา และต่อยอดปณิธานของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คือ การส่งเสริมปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน  ที่พระเดชพระคุณฯ ได้กำหนดแนวทางให้ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม ทานบดีทั้ง ๒ ท่าน จึงได้สนับสนุนส่งเสริมด้วยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาพระวิปัสสนาจารย์ พร้อมกันนี้ ได้ระดมทุนจัดสร้างอาคารปฏิบัติธรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ  อาสภมหาเถร) รวมทั้งเป็นเจ้าภาพสร้างรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) ณ บริเวณด้านหน้าอาคารปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความกตัญญูกตเวที

          ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ ท่านทานบดีทั้ง ๒  ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ถวายพระเดชพระคุณพระพรหมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทะ) เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถกลางน้ำ ๒ ชั้น ในพื้นที่ ๑๖ ไร่ ซึ่งนับว่าเป็นศาสนสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะชั้นล่าง สามารถรองรับพระสงฆ์ทำกิจวัตรพร้อมกันได้ถึง ๔,๐๐๐ รูป นอกจากนี้ ยังได้มีส่วนร่วมระดมทุนเพื่อสร้างวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ ตามนโยบายของสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนได้รับการจัดตั้งเป็น “วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ” มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย  เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓

       ส่วนที่เป็นทานบารมี บุญบารมีและกุศลบารมีนั้น ท่านทานบดีทั้ง ๒ ได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นแบบอย่างที่ดีของพุทธศาสนิกชน ทั้งในส่วนที่เป็นอัตตสมบัติและปรหิตปฏิบัติ นอกจากนี้ยังได้มีกุศลศรัทธาบริจาคทรัพย์และถวายความอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา กิจการคณะสงฆ์ วัดวาอารามต่าง ๆ พระเจ้าพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของพระศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่สังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอเนกประการ นับรวมมูลค่าเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท

          ในวาระโอกาสอันเป็นมงคลสมัยที่คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร จะเจริญอายุวัฒนมงคลครบ ๙๕ ปี ในวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ คณะบุตรธิดา ญาติมิตร และผู้ที่มีความเคารพนับถือ ได้ปรารภที่จะจัดพิมพ์หนังสือชีวประวัติและบันทึกเรื่องราวบางส่วนที่เป็นประสบการณ์ชีวิตตลอด ๙๕ ปี จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ควรแก่การชื่นชมยินดีและน่าอนุโมทนาในกุศลเจตนาเป็นอย่างยิ่ง

          ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลจริยาสัมมาปฏิบัติทั้งปวงที่ได้บำเพ็ญให้เป็นไปแล้วนั้น รวมทั้งผลานิสงส์แห่งการบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา จงมารวมกันเป็นพลวปัจจัย ประทานพรให้คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง โดยปราศจากทุกข์ โศก โรคภัย อุปัทวันตรายทั้งปวง ถึงความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปในร่มธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ยิ่งด้วยปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ธรรมสารสมบัติ ตลอดจิรฐิติกาล เทอญ

 

เรียบเรียงโดย พระเทพปวรเมธี, รศ.ดร.  รองเจ้าคณะภาค ๑๕ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ

Leave a Reply