วัดดังเชียงใหม่ นัดชาวบ้านเคลียร์ 8 มี.ค. เคาะค่าเช่าใหม่ ไม่น่าเกิน 1 หมื่น จากปกติ 1,500

วันที่ 4 มี.ค. 67  เจ้าอาวาสวัดเชียงใหม่ ขีดเส้น 8 มี.ค. เคาะเรตค่าเช่าใหม่ คาดต่ำกว่า 10,000 บาท หลังชาวบ้านลุกฮือติดป้ายประท้วงถูดวัดรีดค่าเช่าโหด ขึ้นจากเดิม 10 เท่า แจงหากพอใจค่าเช่าใหม่พร้อมต่อสัญญาทันที ด้านชาวบ้านจี้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบบัญชีวัด

จากกรณี วัดป่าเป้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ให้ทนายความนำหนังสือไปแจ้งผู้อยู่อาศัยและร้านค้าอาคารพาณิชย์บริเวณหน้าวัดที่ใกล้หมดสัญญาเช่าทราบว่าจะมีการขึ้นค่าเช่าจากเดือนละ 1,500 บาทต่อคูหา เป็นเดือนละ 17,000 บาทต่อคูหา หากไม่ประสงค์ต่อสัญญาเช่าให้ขนของออกทันที ทำให้ผู้เช่าอาคารพาณิชย์ด้านหน้าวัดทั้งหมดขึ้นป้ายคัดค้านการขึ้นค่าเช่าไม่เป็นธรรม

ขณะที่ผู้เช่าได้ยื่นข้อเสนอไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ขอให้วัดเก็บค่าเช่าเดือนละ 5,000 บาท ทำสัญญา 15 ปี และต่อสัญญาทุก 3 ปี โดยผู้เช่าจะเป็นผู้จ่ายภาษีโรงเรือนเอง เบื้องต้น พระมหาอนุพันธ์ อภิวัฑฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเป้า ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าอาวาสมาเจรจากับชาวบ้าน นำข้อเสนอของชาวบ้านไปแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบแล้ว พร้อมนัดหมายจะให้คำตอบในวันที่ 7-8 มีนาคมนี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายปรีชา ประธานชุมชนวัดป่าเป่า เปิดเผยว่า พระมหาอนุพันธ์แจ้งให้ทราบว่าเจ้าอาวาสกำลังพิจารณาอัตราค่าเช่าใหม่ คาดว่าไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท โดยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หากผู้เช่าพอใจและตกลงก็ให้ผู้เช่าทุกรายทั้งที่หมดสัญญาไปแล้วและใกล้หมดสัญญามาทำสัญญาใหม่ทันทีในวันที่ 8 มีนาคม โดยมีตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่มาร่วมสังเกตการณ์ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วม

ทั้งนี้ เจ้าอาวาสได้ขอร้องให้ผู้เช่าปลดป้ายที่ติดหน้าอาคารพาณิชย์ลงก่อน เพราะกลัวจะกระทบกับภาพลักษณ์ แต่ผู้เช่าไม่ยินยอม เพราะอยากรอคำตอบจากเจ้าอาวาสให้ชัดเจนก่อน หากค่าเช่าใหม่คิดในเรตที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ผู้เช่าทุกคนก็พร้อมให้ความร่วมมือปลดป้ายลงแน่นอน แต่หากวันดังกล่าวเจ้าอาวาสแจ้งราคาค่าเช่าใหม่ที่ไม่เหมาะ ทางชุมชนหลังวัดและผู้เช่าอาคารพาณิชย์ด้านหน้าวัดก็พร้อมเคลื่อนไหวขับไล่เจ้าอาวาสทันที

“ก่อนหน้านี้วัดเคยมาแจ้งชาวบ้านในชุมชนหลังวัดว่าจะเพิ่มค่าเช่า จากหลังละ 600 บาทต่อปี เป็นคนละ 3,000 บาท หากไม่ตกลงก็จะขับไล่ออกทันที แต่พอถูกชาวบ้านต่อต้านวัดก็ใช้วิธีนำเงินมาจ้างให้ชาวบ้านย้ายออกรายละ 200,000-300,000 บาท เพราะต้องการนำที่ดินให้ชาวไทใหญ่เช่า ซึ่งชาวชุมชนป่าเป้าอาศัยและเช่าที่ดินวัดมานานกว่า 70-80 ปีแล้ว ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน สร้างบ้านมุงสังกะสีง่ายๆ อยู่บนพื้นที่เพียง 10-20 ตร.ม.เท่านั้น เมื่อถูกวัดกดดันและขับไล่ ชาวบ้านหลายคนจึงหมดหนทาง ออกมารวมตัวกันต่อรองกับเจ้าอาวาสจนสามารถอยู่ต่อได้” นายปรีชากล่าว

ชาวบ้านอีกรายให้ข้อมูลว่า นอกจากปัญหาเรื่องขึ้นค่าเช่าแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่าวัดแห่งนี้ ไม่มีคณะกรรมการวัดที่เป็นคนในชุมชนเเลย ส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ จึงไม่ทราบว่าวัด หรือเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายเรื่องอะไรบ้าง จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบบัญชีของวัดและบัญชีเงินฝากวัดว่าเป็นชื่อบุคคลใด โดยเฉพาะเงินค่าเซ้งตึก หรือเงินกินเปล่า คูหาละ 500,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 11.5 ล้านบาท ที่เก็บจากผู้เช่าในการต่อสัญญาเมื่อ 15 ปีก่อนว่าอยู่ที่ใคร

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์

Leave a Reply