“ส.ส.ดร.มหานิยม” เตือนระวัง พระสงฆ์ลุกฮือร่วมนักศึกษา เหมือน 6 ตุลาเลือดปมปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด

“ส.ส.ดร.มหานิยม” ถามมีบุคคลภายนอกจุ้นเรื่องปลด 3 เจ้าคณะจังหวัดหรือไม่ ระวังพระสงฆ์จะลุกฮือร่วมนักศึกษาเหมือนพระสงฆ์ตุลาเลือด

วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2564 ดร. นิยม  เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปลดเจ้าคณะจังหวัดอย่างไม่เป็นธรรม ไม่มีความผิด เกรงจะทำให้พระสงฆ์ไปร่วมกับขบวนการนักศึกษา นำมาสู่เหตุการณ์ตุลาเลือด การเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมของกลุ่มพระสงฆ์ เริ่มจากพระภิกษุสามเณรจากวัดมหาธาตุ และวัดต่างๆ หลายร้อยรูปทั่วประเทศ มาชุมนุมกันที่ลานอโศก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ ช่วงเดือนมกราคม 2518 พระสงฆ์บางรูปก็อดอาหาร เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ที่สร้างระบอบเผด็จการในหมู่สงฆ์ ด้วยการสร้างองค์กรมหาเถรสมาคมขึ้นมาเป็นเครื่องมือครอบงำพระสงฆ์ แล้วใช้มหาเถรสมาคมทำลายฝ่ายตรงข้าม การปลดเจ้าคณะจังหวัดอย่างไม่เป็นธรรม หากแก้ไขไม่ดี อาจเป็นการหมุนเข็มนาฬิกานำพระเณรเข้าร่วมขบวนการนักศึกษาเหมือนในอดีตก็เป็นได้

“ตนทราบมาว่า พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางเข้าพบสมเด็จพระมหาวีรวงค์ หรือ สมเด็จชินเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อสอบถามสาเหตุการปลดท่านออกจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้รับคำตอบจากเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชว่า ท่านเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่า จะมีการปลดเจ้าคณะจังหวัด เมื่อทางฝ่ายมหาเถรสมาคมยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่อง มาก่อน ก็ต้องถามต่อไปว่า ใครเป็นผู้จัดทำวาระการประชุมในวันนั้น”

ตามกฎหมายสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคม และจะเป็นผู้จัดเตรียมวาระการประชุมให้กับมหาสมาคม เมื่อกรรมการมหาเถรสมาคมไม่รู้ว่าเอกสารการปลด มาได้อย่างไร ก็ต้องถามสำนักพุทธว่า วาระการประชุมเสนอปลดเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ที่นำมาแจ้งให้กรรมมหาเถรสมาคมทราบในวันนั้น เจ้าหน้าที่สำนักพุทธคนใดเป็นผู้เรียงพิมพ์ และใครเป็นผู้นำเรื่องมาให้จัดพิมพ์ เป็นพระสงฆ์หรือบุคคลภายนอก หากเป็นพระสงฆ์ มีตำแหน่งหน้าที่ทางการปกครองคณะสงฆ์หรือไม่ มีเอกสารการปลดเสนอขึ้นมาตามลำดับการปกครองอย่างไร และหากเป็นบุคคลภายนอก เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการสำนักพุทธอย่างไร หรือเป็นบุคคลที่พ้นจากราชการไปแล้ว แต่ยังมีอิทธิพลครอบงำข้าราชการอยู่ ก็ต้องถามว่า เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยอำนาจหน้าที่อะไร ต้องหาความจริงให้ชัด เพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับคณะสงฆ์อีกต่อไป

“ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านทั้ง 3 จังหวัดว่า วันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 11 โมง จะเดินทางมายื่นหนังสือถวายฎีกา” ดร. นิยมกล่าว

Leave a Reply