หากเอ่ยนาม นายแพทย์รัศมีและ คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร ทานบดีผู้เปรียบเสมือน “อนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขามหาอุบาสิกา” ไม่มีใครไม่รู้จักโดยเฉพาะชาวมหาจุฬาฯ ย่อมรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะทั้ง ๒ ท่านนี้ นับว่าเป็นผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอย่างยิ่ง กล่าวคือ ได้มีกุศลศรัทธาอันยิ่งใหญ่บริจาคที่ดินแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน ๑๐๐ ไร่ ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่และเป็นศูนย์กลางการบริหารงานตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นไปตามพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระองค์ผู้สถาปนามหาวิทยาลัย คือ การจัดการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงแก่พระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ทั่วไป

นายแพทย์รัศมี – คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร กอปรด้วยกุศลศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงได้อาราธนาผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เข้าเฝ้ารับถวายโฉนดที่ดินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ขณะนั้นยังทรงมีพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ พร้อมกับทูลเชิญเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยทรงรับโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จากการถวายที่ดินของทานบดีทั้ง ๒ ท่าน เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญแห่งการพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพราะเป็นบาทฐานทำให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยได้ดำเนินการตามพันธกิจอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันได้ขยายสาขาเป็นวิทยาเขตและวิทยาลัยสงฆ์ไปยังส่วนภูมิภาคมากกว่า ๔๕ จังหวัด รวมทั้งเปิดรับสถาบันสมทบทั้งในและต่างประเทศอีกหลายสถาบัน (ประเทศ) เข้ามาเป็นภาคีเครือข่าย


ส่วนที่เป็นทานบารมี บุญบารมีและกุศลบารมีนั้น ท่านทานบดีทั้ง ๒ ได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นแบบอย่างที่ดีของพุทธศาสนิกชน ทั้งในส่วนที่เป็นอัตตสมบัติและปรหิตปฏิบัติ นอกจากนี้ยังได้มีกุศลศรัทธาบริจาคทรัพย์และถวายความอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา กิจการคณะสงฆ์ วัดวาอารามต่าง ๆ พระเจ้าพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของพระศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่สังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอเนกประการ นับรวมมูลค่าเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท
Leave a Reply