วิกฤติแผ่นดินไหวใหญ่ที่เกิดขึ้น ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา คราวนี้คร่าชีวิตพระภิกษุสามเณรและประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 รูป/คน ได้สร้างความสูญเสียและสร้างความหดหู่แก่ใจ ต่อมวลมนุษยชาติ มิใช่น้อย
“ผู้เขียน” เห็นข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานชุดยา เต็นท์นอน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กถ้วย ปลากระป๋อง ไฟฉาย เครื่องปั่นไฟ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ มอบให้แก่ประชาชนชาวเมียนมาผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แล้ว
ได้แต่ทรงเปล่งวาจาว่า “ทรงพระเจริญ”

“ผู้เขียน” ติดตามข่าวแผ่นดินไหวมาตั้งแต่ต้น พระภิกษุในประเทศไทยที่ออกตัวระดมทุนครั้งแรกคือ “เจ้าคุณหรรษา” พระเมธีวัชรบัณฑิต ผอ.วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ โดยจับมือกับ “องค์กรพระนิสิตพม่า” ที่มาศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต่อจากนั้น
“ผู้เขียน” สอบจาก “หลวงพี่อู๋” พระมหานพพร ปุญฺญชโย ป.ธ.9 รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ในฐานะมีความใกล้ชิดกับคณะสงฆ์พม่าในเมืองมัณฑะเลย์ เพราะไปจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรอยู่บ่อยครั้ง ช่วงแรกท่านบอกว่า ยังประสานงานใครไม่ได้ แต่ถัดมา 2 วัน วัดพระธรรมกายระดมรับสิ่งของบริจาคพร้อมเข้าไปช่วยเหลือคณะสงฆ์และประชาชนชาวพม่า เบื้องต้นวันนี้เฉพาะเงินบริจาคให้ไปแล้ว 500,000 บาท ยังไม่นับสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ
วัดพระธรรมกาย ลงมือ ศักยภาพ ไม่ต้องพูดถึง “สบายใจ” ได้ ครบเครื่องทั้งทุนคน ทุนสิ่งของและเงินบริจาค

“เจ้าคุณหรรษา” ปัจจุบันคือ “ฮีโร่” ของพระนิสิตชาวพม่าและประชาชนชาวเมียนมา เพราะท่านมิได้หยุดอยู่แค่บริจาคเองเบื้องต้น 100,000 บาทได้ ท่านยังจับมือกับเครือข่ายจากองค์กรพระธรรมทูตร่วมด้วย ทราบว่าวันนี้สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกามอบให้อีก 374,000 บาท อันนี้ยังไม่นับรวมองค์กรพระนิสิตนานาชาติ ใน มจร ทั้ง พระนิสิตมอญ พระนิสิตลาว บังคลาเทศ เป็นต้น ก็ร่วมด้วยช่วยกัน
ชาวพุทธไม่แสดงน้ำใจกันยามทุกข์ยากแบบนี้แล้ว จะแสดงน้ำใจกันตอนไหน จะไปแสดงน้ำใจ ตอนได้ ยศ ได้สมณศักดิ์ หรือ ตอนไปกิจนิมนต์ฉลองโบสถ์ ฉลองวิหาร
อันนั่น..มิน่าใช่ “มิตรแท้”

“เจ้าคุณหรรษา” เป็นพระหนุ่ม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เก่งวิชาการระดับ “ศาสตราจารย์” เป็น 1 ใน 4 รูป ของประเทศไทย เป็นพระภิกษุที่มีเมตตาต่อมนุษยชาติ ไม่เลือกชาติ ศาสนา และภาษา ตอนที่ “รัฐมอญ” ประเทศเมียนมา ประสบอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ ตอนนั้น “ผู้เขียน” ระดมทุนท่านก็เมตตาช่วยบริจาคสิ่งของและเงินจำนวนหนึ่ง หัวใจท่านเปี่ยมด้วยความเมตตาดัง “พระโพธิสัตว์” สมแล้วที่เป็นที่ “เบิกเนตร” เรื่องสันติศึกษา ในแวดวงการศึกษาของคณะสงฆ์ และความจริงหากจะว่าไปแล้ว แม้แต่ “ศูนย์ใกล้เกลี่ยข้อพิพาท” ที่ มหาเถรสมาคมเคยมีมติไว้ให้กระจายไปทั่วประเทศ “สารตั้งต้น” ก็มาจาก เจ้าคุณหรรษา หรือ พระเมธีวัชรบัณฑิต นี่แหละ
“ผู้เขียน” คิดว่า พระภิกษุแบบนี้ หายากในประเทศไทย
อีกรูปหนึ่งที่ทำงานสนองกิจการคณะสงฆ์ด้าน สาธารณะสงเคราะห์มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคก่อนโควิด -19 คือ “พระมหาเขมานันท์ ปิยสีโล ป.ธ.9” เจ้าอาวาส วัดลาดปลาเค้า เจ้าคณะเขตลาดพร้าว กรุงเทพ ฯ รูปนี้ทำงานช่วยเหลือประชาชน “ถึงลูกถึงคน” ลบภาพลักษณ์ “พระภิกษุเอาแต่ได้” ลงอย่างสิ้นเชิง
พระมหาเขมานันท์ ปิยสีโล เปิดวัดลาดปลาเค้า ให้เป็นดัง “เซเว่น” ตลอด 26 ชั่วโมง ช่วงโควิดเปิดวัดเป็นโรงทานเลี้ยงข้าวกล่อง บริจาคข้าวสารให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น อิสลาม คริสต์ หรือพุทธ ไม่เลือกชาติ ศาสนา ใครมาขอพึ่ง..ช่วยหมด บางคราวเปิดศาลาการเปรียญให้คนมาพักพิงด้วย


Leave a Reply