ภาพพิธีประกาศสถาปนา “พระพรหมดิลก” หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ

เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า

ตามที่ พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญาและได้มี พระบรมราชโองการถอดถอนสมณศักดิ์เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นั้น บัดนี้ คดีถึงที่สุดแล้ว โดยพฤติการณ์ถือได้ว่าไม่ใช่ความผิดอุกฉกรรจ์ หรือความผิดร้ายแรง หรือเป็นผู้ร้ายสำคัญ ประกอบกับไม่มีการกล่าวคำลาสิกขา และไม่มีการดำเนินการให้สละสมณเพศ ทั้งปรากฎข้อเท็จจริงว่า ยังคงดำรงตนอย่างพระภิกษุโดยตลอดระหว่างถูกคุมขัง จึงมีสภาวะเป็นพระภิกษุ มีสถานะเป็น พระมหาเอื้อน หาสธมโม (เปรียญธรรม ๙ ประโยค) ซึ่งมหาเถรสมาคมมีมติรับทราบแล้วเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๖ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑

จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาให้ พระมหาเอื้อน หาสธมโม (เปรียญธรรม ๙ ประโยค)ดำรงสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฎว่า พระพรหมดิลก ปริยัตินายกคณาทร บรรศาสนกิจวิธาน ศีลสมาจารนิวิฐ ตรีปัฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังยารามคามวาสี สถิต ณ วัดสามพระยา พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยให้ถือว่าไม่เคยถูกถอดถอนสมณศักดิ์และราชทินนามมาก่อน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน” นั้น


ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่วัดสามพระยาวรวิหาร ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการพิจารณาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดเผยว่า ได้มีการเชิญหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวายแด่พระมหาเอื้อน หาสธมโม (เปรียญธรรม 9 ประโยค) ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมดิลก ที่พระอุโบสถวัดสามพระยาวรวิหาร

ขณะที่นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนาศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีพระพรหมดิลกเรื่องนี้คล้ายกรณีพระพิมลธรรม ที่ถูกจำคุกกว่า 5 ปี ถูกปลดจากตำแหน่งและถูกถอดถอนจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2503 จนถึงเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2518 ในรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เสด็จพระอริยวงศาคตญาน (วาสน์ วาสนมหาเถร) แห่งวัดราชบพิตร ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ได้มีประกาศคืนสมณศักดิ์ให้แก่พระพิมลธรรม

หลังจากนั้นอดีตพระพิมลธรรมได้นุ่งสบงครองจีวรพาดสังฆาฏิเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ถือว่าพ้นจากการเป็นพระ เป็นที่ปลื้มปีติโสมนัสแก่พุทธบริษัทที่มาประชุมฟังการพิจารณาครั้งนั้นอย่างคับคั่ง มีพระภิกษุสามเณรประมาณ 1,000 รูป คฤหัสถ์ประมาณ 300 คน ซึ่งจากที่ได้มีการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ พระพรหมดิลก ยังคงความเป็นพระสงฆ์ และถูกใส่ร้าย ซึ่งการสถาปณาสมณศักดิ์ในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

Leave a Reply