พระนักวิชาการชื่อดังระบุ ถึงเวลาต้องมี “ศาลสงฆ์” โดยไวที่สุด

วันที่ 3 มิถุนายน 2568 พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสตินวัตกรรมและสันติศึกษา ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปร่วมประชุม พร้อมกับนานาชาติกว่า 30 ประเทศเรื่อง วิทยาศาสตร์ การทำสมาธิ และการเจริญสติ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568/2568 ณ เมืองทิมพู ประเทศภูฏาน ได้กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรมีศาลสงฆ์ เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญมาตรา 67 โดยอ้างถึง จากวิกฤตการณ์ทางศาสนบุคคลที่เกิดขึ้นล่าสุดก็ดี จากการที่คนหรือกลุ่มคนพากันตีความธรรมวินัยและปฏิบัติตามอำเภอใจก็ดี ทำให้เกิดการตระหนักรู้ว่าถึงเวลาต้องมี “ศาลสงฆ์” โดยไวที่สุด

1: เพื่อเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาสถาบันศาสนามิให้บอบช้ำและสั่นคลอนด้วยการออกแบบวิธีทำงานที่มีความละมุนละม่อมและแยบคาย รวมถึงมุ่งป้องกันมิให้การทำลายสถาบันศาสนาจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม

2: เพื่อเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาธรรมวินัยให้มั่นคงโดยการทำหน้าที่ตัดสินว่าอะไรคือธรรม อะไรคือวินัยตามที่ปรากฏในพระไตรปิฏก มิใช่ต่างคนต่างอธิบายและตีความไปคนละทิศละทาง จนนำไปสู่การปฏิบัติที่หนีห่างจากแก่นแท้และเจตนารมณ์ของพุทธองค์

ส่วนศาลสงฆ์จะมีโครงสร้าง ระบบและกลไกกย่างไร เราพุทธศาสนิกชนก็มีหน้ามาช่วยกันออกแบบให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคท้าย ที่ว่า “…ต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย”

ทั้งหมดก็เพื่อรักษาให้สถาบันศาสนามั่นคง รักษาธรรมวินัยให้บริสุทธิ์ รักษาศรัทธาบริสุทธิ์ของพุทธศาสนิกชนมิให้คลอนแคลน ส่งเสริมการตีความวินัยให้สอดคล้องกับพุทธประสงค์ และกระตุ้นให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติสอดรับกับแก่นแท้ของธรรมวินัย ข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่องอันจะนำความรุ่งเรืองร่มเย็นมาสู่ชุมชน สังคม และศาสนาสืบไป

Leave a Reply