ส่องโมเดลนำร่อง…ตั้งศูนย์กฎหมายเพื่อคณะสงฆ์ !!

การจัดตั้ง “ศูนย์พระวินยาธิการระดับอำเภอ”  ศูนย์กฏหมายเพื่อคณะสงฆ์ หรือ ศูนย์คุ้มครองพระสงฆ์ แล้วแต่จะเรียก ถือว่าเป็นการดำเนินการนำร่องของคณะสงฆ์ เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีเขตปกครองคณะสงฆ์ภาคใด ได้ดำเนินการอย่างที่คณะสงฆ์ภาค 6 ทำ  การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวกำหนดให้ทุกจังหวัด ทุกเขตอำเภอ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 6 ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2567  ซึ่งในขณะนี้ มีจังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการจัดตั้งครบทุกอำเภอแล้ว การจัดตั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสนองนโยบายมหาเถรสมาคมและดำเนินการตามแผนพัฒนากิจการคณะสงฆ์ฉบับที่ 2 (2565-2569) อีกด้วย  ซึ่งหวังว่าการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวจะแก้ปัญหาด้านกฎหมาย ข้อพิพาทของคณะสงฆ์และชุมชนได้ระดับหนึ่ง ”

กิจกรรมนี้นี้ถือว่าเป็น “ความก้าวหน้า” ประการหนึ่งของคณะสงฆ์ภาค 6 ภายใต้การบังคับบัญชาการของ “พระเทพเวที” หรือ “เจ้าคุณพล”

โครงการจัดตั้ง ศูนย์พระวินยาธิการระดับอำเภอ”  หรือ “ศูนย์กฎหมายเพื่อคณะสงฆ์”  นี้ ภาคอื่น ๆ ที่เหลือ อีก 17 ภาค ทั้งคณะสงฆ์มหานิกายและคณะธรรมยุต ควรนำไปเป็นแบบอย่าง เพราะหากพระคุณเจ้า จะรอให้รัฐบาลชุดนี้หรือชุดหน้าหรือชาติหน้า คลอด พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนานั่น..ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา

ทางออกมีทางเดียว..เป็นทางสายเอกคือ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน จับมือกันแล้วเดินไปด้วยกันอย่างที่ภาค 6 นำโดย พระเทพเวที หรือ “เจ้าคุณพล”  ทำ

“เปรียญสิบ”เคยได้ยินแว่วๆเมื่อหลายเดือนก่อนว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจับมือกับสภาทนายความ จัดอบรมถวายความรู้เรื่องกฎหมายให้กับคณะสงฆ์ และจะทำในลักษณะคล้ายกับคณะสงฆ์ภาค 6 ทำนี้

แต่!! แล้วกระแสนี้ก็ “จ่างหาย”ไป เมื่อเจอนโยบายเร่งด่วนของ “รัฐมนตรีแจ๋น” เข้าไป

หลายปีมานี้ “สังคมสงฆ์” มีข่าวเสื่อมเสียมากมายทั้งจากจากภายในคณะสงฆ์เองและภัยที่มาจากภัยนอก..ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างสู้ ใครอ่อนแอก็แพ้ไป ใครมีทุน มีเครือข่ายหน่อยก็พอ..ก้มหน้าอยู่ต่อได้

โดยเฉพาะพระสงฆ์ต่างจังหวัด เจ้าอาวาสต่างจังหวัด หลายวัดประสบกับปัญหาด้านกฎหมายทั้งเรื่อง “คนหัวดำอยากเทศน์” อยากคุมวัด  ทั้งเรื่องที่ดินวัด ทั้งเรื่องเงินกฐินผ้าป่า พระสงฆ์ถูกใส่ร้ายจากคนไม่ชอบพอกันก็มีมาก ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จะวิ่งหา “ทนายความ” บางคนก็เรียกแพง ซ้ำบางคนเลี้ยงคดี  หลายรูปเสียเงินเป็นแสน เป็นล้าน กับคนพวกนี้

“ศูนย์กฎหมายเพื่อคณะสงฆ์” เป็นเรื่องที่ “มหาเถรสมาคม” ควรขบคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีกระจายไปครบทุกภาค ทุกจังหวัด เหมือนอย่างที่คณะสงฆ์ภาค 6 เขาทำ  และศูนย์กฎหมายแบบนี้ควรมีไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั่น..แม้ต่างประเทศที่มีวัดไทยจำนวน 10 -20 วัดขึ้นไปก็ควรมี เพราะสถานการณ์วัดและพระธรรมทูตไทยในต่างแดนหลายแห่งก็มีปัญหาด้านกฎหมาย

 ซึ่งหาก “มหาเถรสมาคม” พยักหน้าคิดว่า คนทำงานและเงินทุนคงหาได้ไม่ยาก  ส่วนรูปแบบการจัดตั้งก็มีโมเดลภาค 6 นำร่องให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว

“เปรียญสิบ” ขอชื่นชมคณะสงฆ์ภาค 6 ที่พวกพระคุณเจ้ากล้าคิด กล้าทำ กล้าดึงเครือข่าย ซึ่งมีทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง  ท้องถิ่น ชาวบ้านมาร่วมเป็นทีมงาน

ในขณะที่มหาเถรสมาคมและสงฆ์ภาคอื่นยังหลับไม่ตื่น!!

………..

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]

Leave a Reply