“สุชาติ” เข้าพบ 2 สมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ สั่ง พศ.ดูกฎหมายอาญา ม. 206 เอาผิด “สีกากอล์ฟ” ได้หรือไม่!

วันที่ 14 กรกฏาคม 2568   “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่

นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และมอบหมายให้ตำรวจไปดำเนินการจับกุม อย่างน้อยต้องรายงานไปที่เจ้าคณะหน หรือพระผู้ใหญ่ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับพระที่ปฏิบัติมิชอบ โดยเฉพาะวันนี้ก็มาฝากท่านว่า ความจริงแล้วที่ตำรวจไปทำ อาจจะไม่รู้ลึกซึ้งเท่ากับสำนักพุทธฯ เพราะฉะนั้นอยากให้สำนักพุทธฯ บูรณาการไปกับตำรวจด้วย จะไปจับตรงไหนก็แล้วแต่ ขอข้อมูลไปให้สำนักพุทธฯ ด้วย แล้วเอาข้อมูลมาให้พระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บังคับบัญชา หรือเป็นเจ้าคณะหน เพื่อที่ท่านจะไปดำเนินการต่อ ซึ่งท่านก็ได้สั่งการไปส่วนหนึ่งแล้ว โดยสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้บูรณาการกับสำนักพุทธฯ ด้วย เราต้องแก้ไขโดยมหาเถรสมาคม ร่วมกับสำนักพุทธฯ ในการออกกฎระเบียบ ประกาศกระทรวงต่างๆ

เมื่อถามว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้แจ้งหรือไม่ว่า ได้ส่งหนังสือถึงพระที่หายตัวไปหรือไม่ นายสุชาติ ระบุว่า ก็เห็นสมเด็จฯ ท่านปรารภอยู่เหมือนกันว่า พยายามจะตามมา เพราะท่านก็เป็นกังวลกับปัญหาตรงนี้ กับเรื่องที่ทำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนา ท่านก็เป็นกังวลมาก และพยายามรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ

ส่วน พ.ร.บ. ที่จะคุ้มครองพระพุทธศาสนา ที่มหาเถรสมาคมให้คณะสงฆ์ได้ปรับแก้แทนที่จะออก พ.ร.บ.ใหม่นั้น นายสุชาติ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) เห็นมหาเถรสมาคมบอกแบบนั้น แต่ก็ต้องปรึกษากันใหม่ เพราะจะทำวิธีการใดที่จะแก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2505 หรือจะร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลักการอยู่ที่จะดำเนินการอย่างไรที่จะเอาผิดสีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดแบบนี้ ซึ่งต้องดูว่าจะเอาผิดอย่างไรได้ ถือเป็นหลักการอย่างหนึ่ง

“แต่จะเป็นกฎหมายของสงฆ์ หรือกฎหมายที่ร่างขึ้นมาใหม่ อะไรก็แล้วแต่ ขอให้เร็วก็แล้วกัน เพราะเราต้องการความเร็วในการแก้ไข ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์แบบนี้จะกระทบศรัทธาของประชาชน ตนมองว่าแบบนี้แย่ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็จะเกิดเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาอีกเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้ พวกเราก็เป็นกังวลมาก” นายสุชาติ ระบุ

เมื่อถามถึงการเอาผิดสีกา ก. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา จะถือว่าเข้าข่ายหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนขอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาก่อน ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้ทางสำนักพุทธฯ ไปแล้ว โดยจะต้องนำตัวสีกาคนดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวน

ระหว่างนี้ นายสุชาติ ได้หันหน้าไปพูดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ พร้อมสั่งการให้ไปศึกษาว่า จะสามารถเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่า อะไรที่สามารถกระทำการได้อย่างรวดเร็ว จะต้องนำผู้กระทำความผิดมาให้ได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถเอาผิดสีกา ก.ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฉ้อโกงหรือหลอกลวง รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้ต้องดูว่าเข้าข่ายในเรื่องใด

 

ที่มา..สำนักข่าวไทย

Leave a Reply