“วินิตศึกษา” ร่วมสืบทอดปณิธาน “พระพุทธวรญาณ” จัดพิธีไหว้ครู-มอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น

วันที่ 27 มิ.ย. 67 เวลา 07.30 น. ที่โรงเรียนวินิตศึกษา 1 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี พระธรรมวชิรสุนทร  เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ในฐานะผู้อำนวยการและผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนวินิตศึกษา เป็นประธานในพิธีไหว้ครูประจำปีการศึกษา 2567 โดยมีแขกผู้มีเกียรติ ผู้ปกครอง คณะครู ศิษย์เก่าดีเด่น และคณะนักเรียนประมาณ 4,500 คน ร่วมพิธี

พระธรรมวชิรสุนทร กล่าวว่า พิธีไหว้ครูเป็นประเพณีที่หลวงพ่อพระพุทธวรญาณ องค์ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวินิตศึกษา กล่าวไว้ว่า พิธีไหว้ครู เป็นพิธีที่ลูก ๆ วินิตทุกคนต้องทำและสืบทอด เนื่องจากเป็นพิธีที่มีความสำคัญและมีประโยชน์ 4 ประการคือ หนึ่ง เป็นเครื่องยืนยันว่า ชีวิตคนมันต้องมีครู จึงจะอยู่ได้ และไปรอดด้วยดี สอง การไหว้ครู เป็นเสมือนประการหนึ่งว่า เป็นเครื่องสร้างความสำนึกในหน้าที่ให้แก่ครูว่า ตนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชะตาชีวิตของนักเรียนหรือศิษย์ ยิ่งกว่าใคร  ถ้าครูมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ศิษย์ก็มีความเจริญงอกงาม ถ้าครูบกพร่องต่อหน้าที่ ศิษย์ก็ผิดหวัง สาม การไหว้ครูเป็นเครื่องสร้างความรู้สึกต่อศิษย์ว่า เราเป็นศูษย์มีครู เป็นเครื่องเตือนใจระหว่างความเป็นศิษย์กับครูตลอดเวลา และ สี่ ประการสุดท้าย พิธีไหว้ครูเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ เป็นมรดกที่มีความหมาย เพื่อความมั่นคงของไทยไว้อย่างดียิ่งประการหนึ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าใครไหว้ครูได้ทุกวัน ชีวิตก็จะมีแต่ความสะดวก ความสบาย ความปลอดภัย และความอบอุ่นตลอดเวลา  หลวงพ่อท่านย้ำอยู่เสมอว่า ชีวิตต้องมีครู ถ้าใครลืมครู หรือห่างครู ก็หนีความวุ่นวายความขัดแย้ง ความขัดข้องทั้งหลายไม่พ้น ให้ลูกวินิตทุกคนโปรดนึกอยู่เสมอว่า ครูคือผู้นำทาง

“วันนี้นอกจากมีพิธีไหว้ครูเพื่อให้นักเรียนวินิตศึกษาทั้ง 2 โรงเรียนนร่วม 4,500 ชีวิต มารวมตัวกันที่นี้เพื่อสำนึกถึงบุญคุณของครู ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวทีแล้ว ยังมีศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอีกจำนวน 9 ท่านมาร่วมรับรางวัลดีเด่นด้วย เช่น ว่าที่ร้อยตรีทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าลพบุรี นายนิพนท์ นนธิ ผอ.เขตพื้นที่ประถมศึกษาลพบุรี เขต 1  นายนพคุณ ลัคนาวิเชียร ผอ.เขตพื้นที่ประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา นายศุภศิษฎ์ นุ่มฤทธิ์ ผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษาลพบุรี ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาสพฐ. เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนวินิต เห็นว่ารุ่นพี่หลังจากจบไปแล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติอย่างไรกันบ้าง ในขณะเดียวกันถือโอกาสวันนี้มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนวินิตที่สอบติดแพทยศาสตร์ประเทศจีนด้วย รวมทั้งประกาศให้รู้ว่านักเรียนระดับมัธยมปลายรุ่นปี่  ปีนี้สอบติดมหาวิทยาลัยระดับประเทศหลายร้อยคน สิ่งเหล่านี้เราในฐานะลูกศิษย์หลวงพ่อพระพุทธวรญาณ ก็สืบทอดปณิธานที่ท่านตั้งใจไว้ ขณะเดียวกันก็จะทำหน้าที่สนับสนุนเด็ก ๆ เหล่านี้ให้ไปสู่เส้นทางชีวิตที่ดี เพื่อตนเองและประเทศชาติต่อไป..”

ในขณะที่ นายชูชาติ ลาวัลย์ อดีตครูใหญ่โรงเรียนวินิตศึกษา กล่าวกับนักเรียนตอนหนึ่งว่า “พิธีไหว้ครู เป็นประเพณีที่สำคัญ อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะศึกษาวิชาการงานสิ่งใด จะต้องมีครูให้การอบรมสั่งสอน เรียนจากคนจนมีคำกล่าวเสมอว่า ศิษย์มีครู การที่นักเรียนได้ประกอบพิธีไหว้ครูนั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึง การรำลึกถึงพระคุณของครู ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นเครื่องหมายของคนดี นับว่าเป็นมงคลแห่งชีวิตของนักเรียน สิ่งที่นักเรียนพึงยึดถือ และปฎิบัติตลอดชีวิต คือ ตั้งใจปฎิบัติตนหน้าที่ของนักเรียนให้สมบูรณ์ ให้เป็นเด็กดี เป็นศิษย์ที่ดีของครู ใฝ่เรียนใฝ่รู้ เชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณครู..”

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีทรงพล แป้นแก้ว ต้องขอกราบของพระคุณพุทธวรญาณ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวินิตศึกษา พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ที่ให้โอกาสได้เข้ามาศึกษาที่โรงเรียนวินิตศึกษา โดยได้มาศึกษาที่นี้ระดับมัธยมต้นเมื่อปี 2525 -2527 ตอนนั้นจำเหตุการณ์ได้ว่านักเรียนคนอื่นๆ เขาเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว ตัวเองมาสายแต่ก็ได้รับโอกาสจะโรงเรียนวินิตศึกษา หลังจากจบการศึกษาก็ได้มีโอกาสมารับใช้พี่น้องประชาชนในจังหวัดลพบุรีไล่ตั้งแต่ปลัดอำเภอ นายอำเภอ ปลัดจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถือว่าได้รับโอกาสจากโรงเรียนวินิตศึกษาแห่งนี้ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณพระเทพเสนาบดี คณะครูผู้บริหารที่พิจารณามอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นให้ในวันนี้

“สำหรับรุ่นน้อง อยากจะให้กำลังใจรุ่นน้องทุกคนว่า ขอให้ตั้งใจเรียน ยุคพี่ ๆ นั้นมีความยากลำบากกว่ายุคนี้ ต้องใช้ความอุตสาหะ วันหนึ่งในความยากลำบากและอุตสาหะเหล่านั้น มันทำให้เราได้รับโอกาสในวันข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความสามารถ จะเป็นภูมิต้านทานให้เรามีทักษะ ในการไปใช้ การดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ ทำเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป.”

Leave a Reply