วันที่ 27 มิ.ย. 67 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (VCS) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ร่วมรับฟังด้วย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในหลายประเด็นซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 4 โครงการ/กิจกรรม ได้แก่ การบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลฯ การจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โครงการ 10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และโครงการหลอมรวมใจมอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญกับทุกโครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จัดขึ้นในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องในทุกพื้นที่
“เรื่องสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับ “น้ำ” คือ คุณภาพของน้ำในแหล่งน้ำ มีการใช้กลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง พัฒนาฟื้นฟู และปรับภูมิทัศน์ของแหล่งน้ำให้มีความสะอาดและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนในชุมชน พร้อมจัดการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการวัดค่าคุณภาพน้ำในพื้นที่ของชุมชน เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ค่ามาตรฐาน โดยการเชิญชวนจิตอาสา พี่น้องประชาชน เด็กนักเรียน และอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) เข้ามามีส่วนร่วม และให้ความรู้ ในลักษณะ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์” ซึ่งอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการคำแนะนำ พัฒนาฟื้นฟูน้ำเสีย ทำหน้าที่เป็นผู้จัดกิจกรรมรณรงค์ ผู้สื่อข่าวประจำท้องถิ่น และเป็นผู้ประสานงานแจ้งเตือนข่าวเหตุภัยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน ฟ้า อากาศ เพื่อคอยรายงานสถานการณ์ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ได้เตรียมความพร้อมรับมือได้ การสร้างความตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญทรัพยากรน้ำ ตามเจตนารมณ์การขับเคลื่อนวันดินโลก 2566 ด้วยแนวคิด ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุข อย่างยั่งยืน จะช่วยทำให้บ้านเมืองสะอาดน่าอยู่ และทำให้คนในชุมชนมีความรักใคร่สามัคคีกันอีกด้วย ซึ่งในหลายพื้นที่องค์การจัดการน้ำเสียได้มีกิจกรรมการรณรงค์ เผยแพร่องค์ความรู้การดูแลแหล่งน้ำให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ และควรจะเร่งขยายผลในวงกว้าง จะต้องมีการลงไปติดตามผล และจัดทำสรุปรายงานผลอย่างใกล้ชิดที่ต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารขยายผลให้มีการจัดกิจกรรมดี ๆ ไปทั่วประเทศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า สำหรับการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญที่ผ่านมาทุกภาคส่วนและภาคีเครือข่ายมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายภาระงานที่ทุกกรม และรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เช่น นโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เเละการป้องกันและเเก้ไขปัญหายาเสพติด กรมการปกครองได้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้ครบถ้วนตามจำนวนผู้ลงทะเบียน 100% แล้ว แต่การติดตามเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ภายหลังการไกล่เกลี่ย จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้ในการจัดการการเงิน ออกห่างจากเรื่องอบายมุข พึ่งพาตนเอง มีวินัยทางการเงิน และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่มผู้เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบยังคงค้างอยู่ จึงต้องเร่งสำรวจข้อมูล เพื่อจะได้กำหนดกรอบระยะเวลาและพิจารณาขยายผลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ Phase 2 ต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งกำหนดแผนบูรณาการให้ความช่วยเหลือในระยะยาวแก่ลูกหนี้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เน้นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” หรือ “ทางนี้ผล ผู้คนรักกัน” ควบคู่ไปกับการพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนสามารถทำงานในสิ่งที่รัก เกิดความตั้งใจและทำงานออกมาให้เกิดผลสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างเหมาะสมกับฐานานุรูปแห่งตน
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนมหาดไทยจะต้องบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างมีคุณภาพ อาทิ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กระทรวงมหาดไทยได้มุ่งแก้ไขปัญหาในมิติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล การทำทะเบียนผู้ค้า ผู้เสพ ผู้ป่วย และผู้ผ่านการบำบัดรักษา การฝึกอาชีพ การติดตามใช้ชีวิต การรณรงค์ หน่วยงานเสริมพลัง กองทุนแม่แห่งแผ่นดิน หมู่บ้านคุณธรรม หมู่บ้านรักษาศีล 5 ฯลฯ ซึ่งหากมองให้เป็นเชิงระบบร้อยเรียงชุดข้อมูลจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และลำน้ำสาขาที่เชื่อมโยงด้วย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีคุณภาพ โดยผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทุกพื้นที่ต้องให้ความสำคัญเชิญชวนทุกภาคีเครือข่ายมาร่วมเอาจริงเอาจัง เพื่อเป้าหมายการสร้างหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ที่รวมทุกภารกิจไว้ในเป้าหมายเดียว โดยหลักคิดสำคัญ คือ การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ บนความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน ควบคู่กับมีความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ในบริบทเชิงพื้นที่จะค่อย ๆ ได้รับการแก้ไข โดยในวันที่ 1 ก.ค. 67 นี้ กรมการปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จะเริ่ม kick off การแก้ไขปัญหายาเสพติดพร้อมนำเสนอข้อมูลการดำเนินงาน (Feedback) การป้องกันและเเก้ไขปัญหายาเสพติดให้ ครม. รับทราบ ซึ่งมีประเด็นหลัก 2 ประเด็น คือ เครื่องมือ X-Ray ยาเสพติดในทุกเส้นทาง บนถนนทางหลวง การผลักดันการดำเนินคดียาเสพติด ด้วยการจัดตั้งศาลชำนัญพิเศษ เพื่อดำเนินคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดโดยเฉพาะ เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม และการจัดทำระบบติดตามผลการทำงานทางสารสนเทศในลักษณะ One Data เพื่อการวางแผนแบบ One plan ในด้านของการพัฒนาชุมชน และการสร้างความมั่นคงให้แก่หมู่บ้านยั่งยืน เป็นสิ่งที่กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการด้วยหลักการ “ผู้นำต้องทำก่อน” จึงต้องขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดใส่ใจการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำข้อมูล จปฐ. ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความจำเป็น ในการเป็นตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและท่านนายอำเภอ ต้องช่วยกันกำกับการทำงานของผู้จัดเก็บข้อมูลให้มีความละเอียด ถูกต้อง และครบถ้วน รวมทั้งให้เร่งดำเนินการบูรณาการข้อมูลของหน่วยบริการประชาชนกับระบบ ThaID ของกรมการปกครอง อาทิ ระบบฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนนครหลวง/ภูมิภาค และการประปานครหลวง/ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการประสาน ความถูกต้องตรงกันของข้อมูลพื้นฐานของพี่น้องประชาชน และให้เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นไปด้วย






Leave a Reply