“เจ้าคุณหรรษา” บรรยายพุทธสิทธิมนุษยชน แต่ก็หนีไม่พ้นเรื่อง “สถานการณ์พระสงฆ์”

วันที่ 15  กรกฎาคม 2568 วานนี้ที่ สถาบันพัฒนาสิทธิมนุษยชน กระทรวงยุติธรรม พระเมธีวัชรบัณฑิต เผยว่า  ตั้งใจจะไปแบ่งปันกับนักศึกษาหลักสูตรสิทธิมนุษยชนต่อประเด็นมุมมองพุทธกับสทธิมนุษยชนว่าเกี่ยวข้องหรือเกื้อหนุนกันอย่างไร ทั้งในประเด็นมนุษยนิยม วรรณะ การเลือกปฏิบัติ (Discrimination) รวมถึงประเด็นเรื่องกาม ในศีลข้อ 3 กับ LGBTQ+ ตามที่ปรากฏใน พรบ คู่ชีวิต ซึ่งสัมพันธ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 4 คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของบุคคล และความเสมอภาคของบุคคล เป็นต้น อย่างไรก็ดี เวลาที่ให้มา 3 ชั่วโมงนั้น  นักศึกษาเปิดฉากซักถาม แลกเปลี่ยนมุมมอง และพูดคุยเรื่องวิกฤตการณ์พระสงฆ์ในสังคมไทย โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ส่วนอีก 40 นาทีหลัง จึงเข้าสู่ประเด็นพุทธสิทธิมนุษยชน

“ประเด็นที่พูดคุยสะท้อนความห่วงใยต่อสถานการณ์ความเป็นไปของพระพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักของชาติ บางท่านก็สะท้อนท่าทีเป็นห่วงต่อประเด็น Presumtion of Innosence หรือหลักสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน ตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 มาตรา 29 วรรค 2  รวมถึงการลงข่าวผิดพลาดที่ส่งผลต่อผู้มิได้เกี่ยวข้องจนสร้างความสูญเสียว่าเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์..”

เจ้าคุณหรรษา เผยต่อว่า สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ มาตรการในการรองรับ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างศรัทธา และเกิดความมั่นใจสถาบันศาสนา ตามด้วยมาตราการระยะที่จะส่งผลต่อการทำให้สถาบันสงฆ์มีความบริสุทธิ์ และพร้อมเป็นแหล่งรองรับการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความจริงสูงสุดของศาสนา ซึ่งเมื่อคุยนอกรอบ บางท่านพูดถึง พรบ คณะสงฆ์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า 1: ทำอย่างไรจะให้คณะสงฆ์บริหารงานได้อย่างเป็นอิสระ หรือจะออกแบบเป็นลักษณะองค์กรอิสระ แล้วให้สำนักพุทธทำหน้าที่เป็นสำนักงานพุทธรองรับ 2: โครงสร้างการบริหารควรมีลักษณะ 2 สภา ทั้งสภาบนและสภาล่าง สภาบนหรือสภาของสมเด็จพระสังฆราช (Sangha supreme council) ส่วนสภาล่างคือสภาบริหาร (Executive board) และมีสำนักงานบอร์ดบริหารคอยทำหน้ารองรับงาน

“อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่รัฐบาลจะเสนอ พรบ ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเข้าสู่สภานั้น  บางท่านที่เป็นนักกฏหมายจึงถามว่า เพราะเหตุใดจึงไม่นำเอาหมวดส่งเสริมพระพุทธศาสนาไปรวมกับ พรบ สงฆ์ที่กำลังจะแก้คราวเดียวกันไปเลย ไม่ต้องมีหลาย พรบ มากเกินไป.”

Leave a Reply