“เจ้าคุณหรรษา” ชี้!! หลังอาณาจักรจบภารกิจ “กวาดลานวัด” ฝ่ายศาสนจักร ต้องเร่งกอบกู้สถาบันสงฆ์ครั้งใหญ่ฟื้นฟูศรัทธาชาวพุทธ

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 พระเมธีวัชรบัณฑิต หรือ เจ้าคุณหรรษา พระนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและสันติภาพ ได้โพสต์ข้อความว่า ฝ่ายอาณาจักรปราบปรามภัยศาสนาให้ชาติมั่นคง ฝ่ายพุทธจักรรักษาพระธรรมวินัยให้ศาสนามั่นคง  ความเข้มแข็งของสถาบันใดสถาบันหนึ่งมีความจำเป็นและสำคัญต่อความอยู่รอดของชุมชน สังคมและประเทศชาติมากเพียงใด ให้ลองไปพิจารณาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs ข้อที่ 16 ที่ว่าด้วย Strong Institutions แนวทาง SDGs ของสหประชาชาติ นับว่าสอดรับการที่ประเทศไทยได้ออกแบบและสถาปนา 3 สถาบันหลักของชาติไทย เพื่อให้เป็นก้อนเส้า 3 เส้า ค้ำยันความเข้มแข็งของชาติไทย ความมั่นคงของ 3 สถาบันหลัก คือความมั่นคงของชาติไทย

บัดนี้สถาบันศาสนาอ่อนแอเพราะเหตุแห่งวิกฤตการณ์พระสงฆ์ที่นำไปสู่การบั่นทอนศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา สถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงมีความจำเป็นที่จะทำหน้าที่ในการเข้ามาประคับประคอง ฟื้นฟู และปรับปรุงให่ฝ้สถาบันศาสนามีความแข้มแข็งเป็นที่พึ่งของพลเมือง

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามภัยคุกคาม และเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนา จึงเป็นเครื่องมือที่ฝ่ายอาณาจักรได้ใช้ Hard Power เข้ามาเก็บกวาด และกวาดล้างภัยภายนอก และภายใน เพื่อป้องกันและปราบปรามอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อการบำเพ็ญสมณธรรม ทำให้พระธรรมวินัยเจือปาง จนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นธรรม อะไรเป็นวินัย

ชัดเจนว่า อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ ไม่มีประโยคใดที่พูดถึงพระธรรมวินัยเลยแม่แต่ถ้อยความเดียว เพราะกรรมการชุดนี้เกิดขึ้นมาเพื่อป้องกันและปราบปรามภัยคุกคาม และเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนา เพราะมุ่งที่จะเก็บกวาดและกวาดล้างภัยภัยภายนอกและภายในด้วยอำนาจตามกฎหมาย

หลังจากนั้น จึงจะเปิดทางให้ฝ่ายศาสนจักรจะได้เข้ามาปรึกษาหารือประเด็นที่ว่า อะไรคือธรรม อะไรคือวินัย อะไรมิใช่ธรรม อะไรมิใช่วินัย และออกแบบและจัดวางมาตรการในการรักษาพระธรรมวินัยประพฤติปฏิบัติตนให้สอดรับกับพระธรรมวินัย เพื่อให้สังคมสงฆ์เอื้อต่อการพาต้นให้พ้นทุกข์ พบสุขนิรันดร์สืบไป

Leave a Reply