เปิดใจ “มหานิยม เวชกามา” สาเหตุย้ายพรรค?? 

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 หลังจาก “ดร.นิยม เวชากามา” อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สกลนคร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าย้ายจากพรรคเพื่อไทย สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว ได้สร้างความสับสุนและสงสัยให้กับพระสงฆ์และชาวพุทธที่ชอบบทบาท ดร.นิยม เวชกามา เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ดร.นิยม เวชกามา ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่ “ยืนหนึ่ง” ที่่ทำหน้าที่ปกป้องพระสงฆ์ฺและพระพุทธศาสนาตลอดมา และทั้งเป็น “กระบอกเสียง” บนเวทีสื่อต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

ดร.นิยม เวชากามา  ได้เปิดใจถึงสาเหตุการย้ายพรรคครั้งนี้ว่า  “ผมลาออกจากพรรคเพื่อไทยทั้งน้ำตา อยู่มา 17 ปีไม่เคยทำความเสื่อมเสียให้พรรคมีแต่ส่งเสริมพรรค สุดท้ายไม่มีที่ยืนในพรรคน่าสงสารตัวเองจริงๆ ต้องไปหาบ้านใหม่ซึ่งยังไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร”

ดร.มหานิยม อธิบายว่า แม้การเลือกตั้ง สส.ปี 2566 เขาจะสอบตกแต่ก็ทำงานลงพื้นที่ตลอด ทั้งรับเรื่องราวทุกข์ร้อนของพี่น้องทุกอย่าง และที่สำคัญคือ งานทางด้านวัด พระสงฆ์องค์เจ้า งานพระพุทธศาสนา ไม่เคยบกพร่องแม้ไม่ได้เป็นสส.ก็ตาม

“ในรัฐบาลท่านเศรษฐา ทวีสิน ผมเป็นประธานที่ปรึกษา ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลท่านแพทองธาร ชินวัตร ผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านชูศักดิ์ ศิรินิล และ ท่านสุชาติ ตันเจริญ ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยงานรัฐบาลและประเทศชาติไม่เคยขาดตกบกพร่อง”

ดร.มหานิยม กล่าวต่อไปว่า “แต่เมื่อมีการเตรียมการวางว่าที่ผู้สมัคร สส.สกลนคร เขต 2 ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ทางพรรค พท. จะไม่ให้ผมลงสมัคร สส.เขตเหมือนทุกครั้ง ให้ผมไปอยู่ปาร์ตี้ลิสต์แทน ซึ่งก็ไม่รู้อยู่ลำดับที่เท่าไรด้วย ซึ่งผมยืนยันกับกรรมการบริหารพรรค พท.มาตลอด ว่าพร้อมลงสมัคร สส.เขต จะว่าผมอายุ 74 แล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังแข็งแรงดีมาก แล้วคนที่จะมาลงสมัครแทนที่ผมอายุก็น้อยกว่าผม 2 ปี เท่านั้น จึงไม่ใช่เหตุผลและไม่ยุติธรรมกับผมด้วย  ผมมาคิดอยู่ 2-3 เดือนต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร ระหว่างนี้ก็มีผู้ใหญ่ทางพรรค พปชร.ประสานมาชวนให้ลงสมัคร สส.เขต สกลนคร ซึ่งตอบโจทย์ที่ผมต้องการลงเขตพื้นที่ได้พบพี้น้องประชาชน”

ดร.มหานิยม ได้ย้ำอีกว่า เขาเป็นนักการเมืองเป็นสส.ของประชาชนและประเทศชาติและมุ่งมั่นทำงานเพื่อพุทธศาสนา ประชาชนและสังคมมาตลอด การย้ายพรรคก็เพื่อจะได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจและก็ทำมาตลอดชีวิต เพราะเมื่อพรรคบ้านเดิมอยู่มานานไม่เปิดโอกาสให้ ก็จำใจต้องย้ายออกมา ซึ่งหวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศรวมทั้งชาวสกลนครจะเข้าใจเหตุผลดังกล่าว..

Leave a Reply