พระครูวิมลคุณากร หรือ ที่รู้จักกันในนามหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ปัจจุบันยังมี ลูกหลานของท่านอยู่ที่บ้านใต้วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกหลายคน หรือแม้แต่ร้านค้าขายภายในบริเวณวัดเองก็ยังมี
หลวงปู่ศุข ท่านใช้นามสกุล “เกศเวชสุริยา” อีกสกุลหนึ่ง ท่านเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง ๙ คน ด้วยกัน เมื่อหลวงปู่ศุข อยู่ในวัยฉกรรจ์ ท่านได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำมาหากินค้าขายเล็กๆ น้อยๆ โดยยึดลำคลองบางเขน ซึ่งมีปากคลองเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาตอนใต้ จ.นนทบุรี ลงมา
ปัจจุบันอยู่ข้างทางเข้าวัดทางหลวง เป็นที่ทำมาหากิน หลวงปู่ศุขท่านทำมาหากินอยู่ในคลองบางเขนอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้ภรรยาชื่อนางสมบูรณ์ และกำเนิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ สอน เกศเวชสุริยา อายุครบ ๒๒ ปี ท่านได้ลาไปอุปสมบท ณ วัดโพธิ์บางเขน หรือปัจจุบันชื่อว่า วัดโพธิ์ทองล่าง ซึ่งอยู่ปากคลองบางเขนตอนล่าง ส่วนวัดโพธิ์ทองบน อยู่ตอนเหนือของปากคลองบางเขน ตอนบนบริเวณ จ.ปทุมธานี
พระอุปัฌาย์ท่านชื่อ หลวงพ่อเชย จันทสิริ อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองล่าง ซึ่งเป็นพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ ที่ถือเคร่งในวัตรปฏิบัติและพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวงพ่อเชยท่านยังเป็นอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีความรู้และความชำนาญรู้แจ้งแทงตลอด อีกทั้งทางด้านวิทยาคม ก็แก่กล้าเป็นยิ่งนัก
หลวงปู่ศุข ท่านได้รับถ่ายทอดวิชาความรู้จากพระอุปัฌาย์ของท่านมาพร้อมกับพระอาจารย์เปิง วัดชินวนาราม และหลวงปู่เฒ่า วัดหงษ์ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเชย วัดโพธิ์ทองล่างเหมือนกัน
ทั้งนี้มีผู้กล่าวว่า หลวงปู่ศุข มีวิชาอาคมเวทมนตร์เก่งมาก สามารถเสกใบไม้ให้เป็นตัวต่อ ตัวแตน เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เสกก้านกล้วยให้เป็นงูได้ รวมทั้งเรื่องอภินิหารของขลัง คงกระพันชาตรีมีอีกมาก จนถึงกับพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ (ต้นราชสกุลอาภากร) หรือ เสด็จเตี่ย ได้มาทดลองดู เห็นจริงจึงยอมมอบตัวเป็นศิษย์ตั้งแต่นั้นมา และได้วาดภาพพุทธประวัติด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ที่อุโบสถด้านในหน้าอุโบสถ ซึ่งปรากฏจนทุกวันนี้
หลวงปู่ศุข ท่านมีเมตตามากจึงมีศิษย์เป็นอันมากที่มาเรียนวิชาเหล่านี้ ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูวิมลคุณากร และเป็นเจ้าคณะแขวง (ปัจจุบันเรียกว่าเจ้าคณะอำเภอ) เป็นองค์แรกของอำเภอวัดสิงห์ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อใด
ท่านมรณภาพเมื่อเดือน ๑ ปีกุน พ.ศ.๒๔๖๖ ไม่ปรากฏวันที่ที่แน่นอน คำนวณอายุได้ ๗๖ ปี วันสวดพระพุทธมนต์ทำศพอยู่ ๗ วัน ๗ คืน จึงประชุมเพลิง
ปัจจุบันชาวจังหวัดชัยนาทผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้ร่วมกันสร้างรูปหุ่นขี้ผึ้งไว้ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อจะได้สักการบูชาโดยทั่วกัน
กรมทหารเรือเห็นความสำคัญ จึงได้บูรณะซ่อมแซมมณฑป เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๕ ทำให้ประชาชนทั้งใกล้และไกลต่างจังหวัดหลั่งไหลมาสักการบูชาทุกๆ วันมิได้ขาด จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยนาท
สำหรับภาพ “เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ๒๔๖๖2 เนื้อทองคำฉลุ” เป็นของ นาย กิตติ พจนานุภาพ นายกสมาคมจิตรางค์คนางค์อนุรักษ์พระเครื่องไทย
ที่สำคัญ คือ นายกฯ กิตติ ได้สมบัติของ “เฮียเจี้ย” พ่อเกิดเกล้ามาทั้งหมด จึงกลาย เป็นผู้สะสมพระเครื่องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่ขึ้นชื่อว่ามากที่สุด จนได้ฉายาว่า
“นายกฯ กิตติ เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่”
นายกฯ กิตติ บอกว่า สมัยรุ่นๆ พ่อเป็นคนชอบทำบุญ และ เช่าพระสร้างใหม่ทุกวัดทุกสำนัก โดยจะเช่าเนื้อทองคำ เช่าโดยไม่ได้คิดอะไร ทั้งนี้ นายกฯ กิตติ แนะนำว่า ด้วยความนิยมของเหรียญรุ่นดังกล่าวจึงมีการทำออกมาปลอมขายจำนวนมากเช่นกันและสนนราคาอยู่ที่ หลักแสน หลักล้าน
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ นายกฯ กิตติ ได้ เข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อทูลเกล้าถวาย รายได้ จากการประกวดพระเครื่อง ครั้งที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่สนใจพระเครื่องสาย หลวงปู่ทิม อิสริโก และ สายอื่นๆ เข้าไปเยื่ยมชมข้อมูลได้ที่ https://www.facebook.com/ศูนย์พระเครื่องหลวงปู่ทิมอิสริโก-253945151879624/?notif_id=1532486883571003¬if_t=page_fan
#เหรียญหลวงปู่ศุข
#หลวงปู่ศุข
#วัดปากคลองมะขามเฒ่า
#เจ้ากรม
#พระทองคำ
#วัดสิงห์
#ชัยนาท
Leave a Reply